รัฐบาลเผยผลงานมาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของ เศรษฐกิจโลก

สำนักข่าวไทย ๘ ต.ค.- รัฐบาลเผยรายงานผลการดำเนินงาน ๑ ปี ในมาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของ เศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่องของรัฐบาล ตัวอย่างผลงานสำคัญของกระทรวงต่างๆ ดังนี้

สำนักนายกรัฐมนตรี/สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  โครงการประเภทการก่อสร้าง/โครงสร้างพื้นฐาน จำนวน ๒๘๘ โครงการ  ได้แก่ การก่อสร้างสะพาน ก่อสร้างถนนคอนกรีต พัฒนาระบบไฟฟ้า ก่อสร้างระบบประปา /โครงการประเภทแหล่งน้ำ จำนวน ๓๔๓ โครงการ ได้แก่ โครงการขุดลอกคลอง ก่อสร้างฝาย พัฒนาแหล่งน้ำ-แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการ โรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ชุมชนแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก  กรณีได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากกิจการเหมืองแร่แมงกานีส ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่


สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)  รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภค ทั้งสิ้น ๑๐,๘๗๖ ราย แก้ไขให้ผู้บริโภคจำนวน ๓,๗๗๒ ราย เป็นเงิน ๔๑๖,๗๐๑,๐๕๐.๖๑ บาท รับดำเนินคดีแทนผู้บริโภค  ๒,๑๐๒ ราย เป็นเงิน ๑๗๑,๕๐๔,๔๐๘.๔๙ บาทและไม่ได้ดำเนินคดีแทนผู้บริโภค  ๒๓๙ ราย เป็นเงิน ๑๔๐,๗๓๘,๗๕๘.๐๐ บาท  สคบ. ได้ดำเนินคดีที่ผู้บริโภคได้รับเงินคืนจากการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาล จำนวน ๑๖ คดี เป็นเงิน ๔,๕๖๖,๓๗๑.๔๙ บาท รวมทั้งได้ดำเนินการตั้งเรื่องยึด/อายัดตามคำพิพากษาศาล จำนวน ๑๕ คดี เป็นเงิน ๔,๑๐๗,๑๓๑.๘๒ บาท กรมประชาสัมพันธ์-โครงการประชาสัมพันธ์การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้ประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

กระทรวงยุติธรรม– ช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบกรณีการลงทุนออมเงินกับแชร์แม่มณี และกรณี Foex-3D


กระทรวงมหาดไทย  การจัดระเบียบหาบเร่–แผงลอย  ๑) กำหนดพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเป็นพื้นที่ทำการค้าของหาบเร่–แผงลอยจำนวน ๓ จุด รองรับผู้ค้าได้ ๑๔๗ ราย คือ จุดที่ ๑ บริเวณทางเท้าถนนพระราม ๒ ซอย ๖๙ พื้นที่เขตบางขุนเทียนจุดที่ ๒ บริเวณทางเท้าของซอยอารีย์ ๑ พื้นที่เขตพญาไท จุดที่ ๓ บริเวณพื้นที่ว่างของซอยอ่อนนุช ๗๐ พื้นที่เขตประเวศ ๒)  จัดระเบียบผู้ค้าในจุดผ่อนผันเดิมที่อยู่ระหว่างการยกเลิก จำนวน ๑๗๑ จุด ในพื้นที่ ๑๘ สำนักงานเขต จำนวนผู้ค้า ๗,๙๒๒ ราย  ๓) พิจารณาความเหมาะสมพื้นที่ทำการค้าตามที่กลุ่มเครือข่ายแผงลอยไทยยื่นข้อเรียกร้อง จำนวน ๓ จุด คือ ๑) ตลาดบางคอแหลม เขตบางคอแหลม รองรับผู้ค้าได้ ๑๐๗ ราย ๒) ซอยสุขุมวิท ๑๘ เขตคลองเตย รองรับผู้ค้าได้ ๑๒ ราย ๓) ถนนกำแพงเพชร ๔ เขตจตุจักร รองรับผู้ค้าได้ ๔๐ ราย ๔) จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามโครงการถนนคนเดิน (Walking Street)  ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   ๑ . โครงการศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอม (Anti Fake News Center : AFNC) เปิดศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) เมื่อ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ รับแจ้งเบาะแสและติดตามการสนทนาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับข่าวปลอม ตั้งแต่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ – ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ พบข้อความข่าวที่ต้องคัดกรอง ๙,๑๖๒,๗๑๘ ข้อความ เข้าเกณฑ์ตรวจสอบ ๑๕,๒๙๗ ข้อความ ดำเนินการตรวจสอบ จำนวน ๕,๒๓๐ เรื่อง   ได้รับผลตรวจสอบ ๒,๕๔๙ เรื่อง และมีการเผยแพร่ทั้งหมด ๘๔๐ เรื่อง จำนวนผู้ติดตามของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม –  Website : ๓,๑๐๔,๓๕๑ ผู้รับชม/Line :  ๑,๔๐๖,๒๖๓ ราย/Facebook : ๖๒,๗๕๐ ราย/Twitter : ๖,๔๘๖ ผู้ติดตาม  ๒. การเฝ้าระวังเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Operation Center: CSOC)  ก.ค. ๒๕๖๒ –  ก.ค. ๒๕๖๓ ดำเนินการกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. จำนวน ๙,๕๘๕ URLs จำนวน ๔๑๕ เรื่อง ซึ่งศาลได้มีคำสั่ง (หมายเลขคดีดำ) ให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จำนวน ๗,๑๓๖ URLs จำนวน ๑๐๓ เรื่อง 

กระทรวงกลาโหม  ๑. ดำเนินโครงการฝึกอบรมอาชีพสนับสนุนการสร้างงานให้กับมวลชนรอบค่ายทหาร/  โครงการ ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน / โครงการ Army Delivery/ โครงการทหารพันธุ์ดี  ๒  จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อช่วยเหลือประชาชนในภัยพิบัติต่าง ๆ ทั้ง ๔ กองทัพภาค


กระทรวงการคลัง  ๑) การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน  จับกุมเจ้าหนี้  ๖,๐๐๒ ราย  ธ.ก.ส. ตั้งคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบประจํา กทม. และประจําจังหวัด  ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการหารายได้ของลูกหนี้นอกระบบประจำจังหวัด   จัดทำระบบฐานข้อมูลหนี้นอกระบบ (นร.๑)  เป็นข้อมูลของประชาชนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือผ่าน ธ.ออมสินและ ธ.ก.ส.    ๒) โครงการพิจารณาสินเชื่อ Soft Loan แก่ Non-bank  มูลค่าโครงการ ๘๐,๐๐๐   ล้านบาท ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ไปแล้ว ๔,๙๔๐,๓๔๔ ราย  ๓) กําหนดหลักเกณฑ์ใหความช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงิน กยศ.  กําหนดหลักเกณฑ์ช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่อยูระหว่างการชําระหนี้ และไม่สามารถชําระหนี้ได้ตามระยะเวลาที่กําหนด    งดการขายทอดตลาด – ชะลอการบังคับคดี สำหรับผู้กู้ยืม และ/หรือผู้ค้ำประกัน  มาตรการปรับเงินค่าครองชีพให้กับผู้กู้ยืมเงินที่อยูระหว่างศึกษา เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากเดิม ๑,๒๐๐ บาท/เดือนเป็น ๑,๘๐๐ บาท/เดือน, ระดับ ปวช./ปวส. จากเดิม ๒,๔๐๐ บาท/เดือน เป็น ๓,๐๐๐ บาท/เดือน, อนุปริญญา/ปริญญาตรี จากเดิม ๒,๔๐๐ บาท/เดือน เป็น ๓,๐๐๐ บาท/เดือน ปรับเกณฑ์รายได้ต่อครอบครัวผู้กู้จากเดิมไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท/ปี เป็น ๓๖๐,๐๐๐ บาท/ปี เพื่อขยายฐานผู้กู้ยืมให้มากขึ้น  ๔) ปรับปรุงระบบภาษีและการเข้าถึงสินเชื่อที่อยูอาศัย ออก พ.ร.ฎ. ลดภาษีที่ดินฯ พ.ศ. ๒๕๖๓ บรรเทาภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในอัตราร้อยละ ๙๐ ของจํานวนภาษีที่คํานวณได้ ให้แก่ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ใช้เป็นที่อยูอาศัยใช้ประโยชน์ ๕) มาตรการลดภาระการซื้อที่อยูอาศัย (โครงการบ้านดีมีดาวน์)  สิ้นสุดโครงการมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วม ๑๑๙,๙๐๓ คน มีที่ได้รับสิทธิจำนวน ๑๙,๕๘๗ คน และที่ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน ๑๙,๕๔๙ คน  ๖) มาตรการยกเว้นอากรขาเข้าของที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)  ๗) โครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชย ให้แก่ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-๑๙ จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท ๓ เดือน ( เม.ย. – มิ.ย. ๒๕๖๓) จำนวน ๑๕.๓ ล้านราย เป็นเงินกว่า ๑๕๙,๕๘๔ ล้านบาท  ๘) โครงการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยาและชดเชยให้แก่ประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-๑๙ เพื่อชวยเหลือผูมีบัตรสวัสดิการแหงรัฐ  จ่ายเงินเยียวยา ๑,๐๐๐ บาท/เดือน ๓ เดือน (๓,๐๐๐ บาท/คน) จ่ายเงินไปแล้วประมาณ ๓,๐๘๗ ล้านบาท ผู้ได้รับสิทธิประมาณ ๑.๐๓ ล้านราย 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ๑. โครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ๑,๑๕๓ แห่ง สมาชิก ๓๗๑,๓๘๓ ราย  ๒. ดำเนินการบริหารจัดการที่ดินทำกิน  ๑) จัดที่ดินให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน  ส.ป.ก. ๔-๐๑ จำนวน ๑๘,๑๐๑ ราย  ๒) ปรับปรุงแผนที่แปลงที่ดินตามมาตรฐาน RTK GNSS NETWORK จำนวน ๒๑๔,๒๒๘ ไร ๓) ตรวจสอบสิทธิการเข้าทำประโยชน์ที่ดินของเกษตรกร จำนวน ๓,๘๒๓,๙๓๔ ไร่ และผู้เข้ารับบริการศูนย์บริการประชาชน จำนวน ๒๗๘,๑๒๔ ราย   ๓. ดำเนินการจัดระเบียบการทำประมง  ออกมาตรการ ระเบียบ ประกาศ และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องภายใต้กฎหมายที่กำหนด ๒๖ ฉบับ  ออกใบอนุญาต/รับรอง และ นส.รับรอง ๒๕,๐๖๔  ฉบับบูรณาการข้อมูลเรือประมงกับกรมเจ้าท่า ๖๐,๙๘๒  ฉบับ ควบคุม/กำกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ๓๐,๒๕๙ ฟาร์มและเฝ้าระวังการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ๒๗๑ ครั้ง  ติดตามและเฝ้าระวังประมงแหล่งน้ำจืด ๗๕๘ ครั้ง เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนประมงพื้นที่แหล่งน้ำจืด ๒๕ ชุมชน ตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยในเรือประมง ๔,๗๕๗ ลำ ๔. ป้องกันและแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ๑. ตรวจติดตามและเฝ้าระวังการทำประมงตามกฎหมาย ๑๙๐,๔๖๖ ครั้ง และผานระบบติดตามเรือ (VMS) ๒๙,๒๒๕ ครั้ง  ตรวจสอบและเฝาระวังการทำประมงของเรือประมง และเรือขนถายสัตว์น้ำไทยนอกน่านน้ำ ๑,๑๕๗ ครั้ง  ตรวจสอบและเฝ้าระวังการทำการประมงของเรือประมงให้เป็น ไปตามกฎหมาย ๖๗๔ ครั้ง ตรวจสอบการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำจากเรือประมงต่างประเทศ ๔๘,๗๑๑ ครั้ง ตรวจสุขลักษณะแพปลา สะพานปลาและท่าเทียบเรือ ๕๘๗ แห่ง และตรวจสอบระบบ ตรวจสอบย้อนกลับของโรงงาน (Traceability) ๑๘๐ แห่ง ๕ พัฒนาความเขมแข็งของกลุมคัดเลือกชุมชนประมง เข้ารวมโครงการพัฒนาอาชีพเสริม สร้างความเข้มแข็งชุมชนประมง ตามเป้าหมาย ๑๔๔ กลุ่ม ๖ ชดเชยเยียวยาเจ้าของเรือที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ปี ๒๕๕๘ จ่ายค่าชดเชยใหกับเจ้าของเรือ จำนวน ๒๕๒ ลำ                          

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหาด้านการกระจายการถือครองที่ดิน โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน ๙๑๙ พื้นที่ ๗๐ จังหวัด เนื้อที่ประมาณ ๑,๕๙๘,๔๗๗-๓-๐๐.๐๕ ไร่ โดยปัจจุบัน ได้ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในลักษณะแปลงรวมโดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ ในพื้นที่ลุ่มน้ำ ๓๔๕ โดยออกหนังสืออนุญาตแล้ว ๒๕๒ พื้นที่ ๖๖ จังหวัด เนื้อที่ ๖๘๗,๐๐๐ ไร่ จัดผู้เข้าทำประโยชน์ ๕๒,๐๔๒ ราย และสนับสนุนการพัฒนาอาชีพ ๑๓๒ พื้นที่ รวมทั้งคาดการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือมลพิษที่อาจจะเกิดขึ้น

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติมกฎหมายฯ พิจารณาร่างหลักเกณฑ์การทำเช่าซื้อโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย นำเสนอคณะกรรมการ กคช. ให้ความเห็นชอบต่อไป                                          

กระทรวงพาณิชย์  ๑)  โครงการกำกับดูแลสินค้าและบริการและมาตรฐานชั่งตวงวัด การกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการ โดยกำหนดสินค้าและบริการควบคุม จำนวน ๕๕ รายการ สินค้าและบริการที่ติดตามดูแล ๒๓๐ รายการ เพื่อคุ้มครองประชาชน ผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบ  การควบคุมราคายา ค่าบริการโรงพยาบาลเอกชน ด้วยมาตรการแจ้งค่ายา ค่าบริการก่อนการรักษาผ่าน QR Code  ๒) โครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน  รวม ๙,๐๑๘  ครั้ง เกิดมูลค่าการจำหน่ายสินค้า รวมทั้งสิ้น ๑๕๓.๑๔ ล้านบาท ประชาชนเข้าร่วมงานกว่า ๙๒๒,๕๐๐ คน สามารถลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน คิดเป็นมูลค่า ๖๕.๑๓ ล้านบาท ๓) โครงการร้านอาหารหนูณิชย์ การจัดหาร้านอาหารปรุงสำเร็จ ปัจจุบันมีร้านเข้าร่วมโครงการฯ ทั่วประเทศ จำนวน ๑๕,๖๒๕ ร้าน จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จราคาไม่เกิน ๓๕ บาท ๔) โครงการ“พาณิชย์ลดราคา ! ช่วยประชาชน” จำนวน ๕  Lot ๑ และ Lot ๒  จำนวน ๕๑ ราย โดยมีสินค้า ๖ กลุ่มสินค้า จำนวน ๓,๐๒๕ รายการ Lot ๓ ช่วยประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ โดยร่วมกับห้างท้องถิ่นทุกภาคทั่วประเทศจาก ๖๗ จังหวัด รวม ๒๑๑ ห้าง ๒๘๗ สาขา มีรายการสินค้า ๖ กลุ่ม จำนวน ๔,๘๔๕ รายการ ลดราคาสูงสุดร้อยละ ๖๘  Lot ๔ เน้นไปถึงทุกอำเภอทั่วประเทศ ๗๖ จังหวัด รวม ๘๗๘ อำเภอ ๖ กลุ่มสินค้า จำนวน ๗,๑๕๘ รายการ Lot ๕ Back To School ลดราคาสูงสุดถึงร้อยละ ๘๐ สินค้าชั้นอนุบาล ประถม และมัธยมปลาย                                                                             

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา – โครงการ “Thailand Street Food Festival ๒๐๒๐” เปิดโครงการนำร่องถนนคนเดิน (Walking Street) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ บริเวณถนนสีลม และถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร                                    

กระทรวงคมนาคม เร่งรัดการก่อสร้าง แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ปรับปรุงทางหลวงหมายเลข ๓๕ (ถนนพระราม ๒) เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน  แก้ไขปัญหาการเวนคืนที่ดินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ด้วยการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินจากเดิม ๕,๔๒0 ล้านบาท เป็น ๑7,๔๕๒ ล้านบาท แก้ไขปัญหา PM ๒.๕ ที่เกิดจากยานพาหนะ 

กระทรวงแรงงาน ตรวจแรงงานในเรือประมงทะเล ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า–ออก (PIPO) โดยจัดชุดตรวจเรือ จำนวน ๓๐ ศูนย์ และจุดตรวจเรือประมงล่วงหน้า (FIP) ๒ จุด และบูรณาการตรวจคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเลในพื้นที่ ๒๒  จังหวัดชายทะเล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]