สำนักข่าวไทย 3 ต.ค.- อนุกรรมาธิการสิทธิเสรีภาพสื่อ วุฒิสภา เตรียมเสนอรัฐบาลและ กสทช.เพื่อแก้ปัญหาจริยธรรมสื่อ ก่อนเร่งรัดคลอด พรบ.จริยธรรม ด้านสื่อดิจิทัลทีวีที่ถูกพาดพิง ยันเสนอข่าว”คดีน้องชมพู่” อิงจรรยาบรรณวิชาชีพ ขณะที่นักวิชาการสื่อแนะหลักการทำงานสื่อที่สำคัญ
การประชุมคณะอนุกรรมาธิการสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและสื่อสาธารณะ ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา วันพุธที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สว.) อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ได้มีการพิจารณารวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชน โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายด้านวิชาชีพสื่อมาให้ข้อมูล ทั้งนี้มีการหยิบยกประเด็น การนำเสนอข่าวคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ มาเป็นกรณีศึกษา
สื่อ“ดิจิทัลทีวี” ย้ำทำตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
ผู้แทนสื่อดิจิทัลทีวีช่องหนึ่ง ที่ถูกพาดพิงในสังคม ได้เข้าให้รายละเอียด หลักในการทำงานและทำหน้าที่สื่อมวลชน ต่อคณะอนุกรรมาธิการสิธิเสรีภาพสื่อฯวุฒิสภา ว่ากรณีการนำเสนอข่าวน้องชมพู่ ไม่ได้คิดว่าข่าวนี้จะปั้นให้ใครดัง แค่อยากค้นหาความจริงให้รอบด้านที่สุ
กรณีประเด็นเสียงวิจารณ์ ว่าการนำเสนอข่าวของพวกเราแล้วทำให้เกิดความแตกแยกในชุมชนนั้น จริงๆ แล้วชาวบ้านกกกอกต้องการให้มีการเกาะติดคดีนี้ เพราะไม่อยากให้ข่าวเงียบ ส่วนที่พูดถึงเรื่องจรรยาบรรณก็ให้ความสำคัญทุกขึ้นตอน
ด้านผู้แทนจากสื่อดิจิทัลทีวีอีกช่อง ถูกพาดพิงเช่นกัน กล่าวถึงกรณีการที่ได้มีการพูดถึงมีการปฏิบัติหน้าที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ตามวิจารณ์หรือไม่ ยอมรับว่าบางครั้งก็คาดไม่ถึง แต่ก็ปรับตัวตลอด และได้มีการนำฝ่ายเซนเซอร์ เพื่อช่วยกันพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมา เข้ามามีบทบาทในการทำงานกองบรรณาธิการมากขึ้น
“อิสระ” แต่ต้องเป็นธรรมและไม่ล้ำเส้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ นิด้า กล่าวถึงหลักการทำงานของสื่อ ควรยึดหลักในการทำหน้าที่ 5 ข้อ คือ หนึ่ง-การทำความจริงให้ปรากฏ สอง-สื่อจะมีมาตรการอย่างไรในการปกป้องความอิสระ แต่ไม่ให้ล้ำเส้น สาม-ความเป็นจริงเสนอไปแล้วเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ สี่-ความยินยอม ไม่ได้แปลว่าสามารถทำได้ ต้องพิจารณาหากยอมแต่ไม่เกิดผลดี สังคมเสียหายไปแล้วใครรับผิดชอบ ห้า-ความรับผิดชอบ สื่อที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ จะรับผิดชอบอะไรบ้าง เมื่อมีปัญหารับผิดหรือไม่ การที่ระบุว่าไม่คาดคิด เคยมีการขอโทษ หรือแก้ไขหรือไม่ “ผมไม่สงสัยในเรื่องจริยธรรม แต่การทำข่าวไม่ควรมองข้ามผลสืบเนื่องการนำเสนอ เช่น การเลียนแบบ ที่อาจจะมีการโปรโมทผู้ต้องสงสัยอีกในอนาคตหรือไม่ มันจะเป็นค่านิยมที่บิดเบี้ยว”
ชี้รัฐจัดสรรงบสนับสนุนสื่อสร้างสรรค์
นาย วสันต์ ภัยหลีกลี้ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า กรณีคดีน้องชมพู่ พบว่ามีสื่อบางสื่อที่เลือกไม่เล่นข่าวนี้เลย หรือแค่นำเสนอปรากฏการณ์แล้วก็พัก เพราะยังไม่มีจุดจบของคดี ส่วนกรณีที่เป็นที่วิจารณ์ว่าการเล่นข่าวตามกระแส เพราะต้องการเรทติ้งหวังโฆษณา จึงอยากเสนอว่าอาจต้องมีกระบวนการที่ไม่ได้วัดเรื่องเรทติ้งอย่างเดียว มุ่งเน้นพื้นฐานจากคุณภาพเพื่อประโยชน์ที่สังคมควรจะได้รับ และบอกคนสนับสนุนให้มองเห็นประโยชน์จากเรื่องนี้ และเพื่อเป็นการให้กำลังใจสื่อที่ทำงานสร้างสรรได้มีความแข็งแรงต่อไป
ด้าน ดร.นิพนธ์ นาคสมภพ ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ถือเป็นการรับฟังสภาพปัญหา และเป็นเพียงการเก็บข้อมูล กรณีการนำเสนอข่าวการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่มีทั้งผู้บริหารจากวิชาชีพ และนักวิชาการ มาเสนอแนวคิดให้ข้อมูล เพื่อที่กรรมาธิการจะนำไปสู่การวิเคราะห์ปัญหาด้านวิชาชีพสื่อมวลชน ทั้งคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งจะนำไปสู่พิจารณาแก้ไขปัญหาหรือสร้างมาตรฐานด้านวิชาชีพ โดยเฉพาะด้านกฎหมายจริยธรรม ต่อไป.-สำนักข่าวไทย