สปสช.ยกเลิกสัญญาคลินิกเอกชน เพิ่ม 108 แห่ง

สปสช. 29 ก.ย..- สปสช. ชี้แจงมาตรการรองรับดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณียกเลิกสัญญาคลินิกเอกชนบัตรทองเพิ่ม 108 แห่ง มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. นี้ แนะประชาชนไม่ต้องลงทะเบียนหน่วยบริการใหม่ ใช้บัตรประชาชนรักษาต่อได้ที่ รพ.ในระบบบัตรทองทุกแห่ง


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ สปสช. ได้ตรวจสอบคลินิกเอกชนล็อตที่ 3 จำนวน 108 แห่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้แจ้งความและยกเลิกสัญญากับคลินิกเอกชนมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้น หลังจากที่ได้ดำเนินการรกับคลินิกเอกชน 2 ล๊อต แรก จำนวน 18 แห่ง และ 64 แห่ง ซึ่งคลินิกทั้งหมดนี้ มีประชาชนลงทะเบียนสิทธิราว 2 ล้านคน ในจำนวนนี้มี 4 แสนคน ที่เข้ารับบริการและได้รับผลกระทบ เป็นกลุ่มที่ สปสช. ต้องเร่งดูแลและอำนวยความสะดวกให้ได้มากที่สุดภายใต้บริการที่จำกัดของหน่วยบริการที่มีอยู่ โดยให้เข้ารับบริการต่อเนื่องได้ที่หน่วยบริการรัฐ และ รพ.เอกชน ในระบบบัตรทองได้ ไม่ต้องลงทะเบียนหน่วยบริการประจำ ไม่ต้องมีใบส่งตัวและไม่เสียค่าใช้จ่าย ในส่วนของผู้ป่วยเร่งด่วน อาทิ ผู้ป่วยไตวาย ผู้ป่วยผ่าตัด หญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น สปสช.จะติดต่อและประสานไปยังโรงพยาบาลในการรักษาต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่ง สปสช.ได้ประสานกับศูนย์บริการสาธารณสุขในการเข้ารับบริการและยาต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

นพ.ศักดิ์ชัย ย้ำว่าสิทธิบัตรทองของประชาชนยังอยู่ท เพราะเป็นการยกเลิกสัญญาคลินิก แม้ทำให้ประชาชนไม่มีหน่วยบริการประจำ แต่ประชาชนไม่ต้องมาลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ เพราะจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้ารับบริการที่หน่วยบริการใดก็ได้ในระบบบัตรทองในระหว่างนี้ ซึ่ง สปสช. ได้เตรียมสื่อสารทำความเข้าใจประชาชน นอกจากเชิญตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ใน กทม. มารับฟังการชี้แจงและทำความเข้าใจกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ผู้บริหาร สปสช. ยังได้พบผู้อำนวยการสำนักงานเขตต่างๆ ในพื้นที่ กทม. เพื่อชี้แจงข้อมูล
ในการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สปสช. ต้องขอบคุณ พล.ต.อ.อัสวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ที่ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขร่วมดูแลประชาชน และการอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่มาขอขึ้นทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการที่สำนักงานเขต พร้อมขอขอบคุณ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่ร่วมดูแลประชาชนได้รับผลกระทบในการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงขอบคุณ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ที่ประสานกับคลินิกเอกชนในการขอเวชระเบียนผู้ป่วยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“การยกเลิกสัญญาคลินิกเอกชนเพิ่มในวันนี้มีต้นเหตุ ไม่ทำไม่ได้ เมื่อเกิดผลกระทบกับประชาชน สำนักงานฯ ต้องเร่งเข้าไปดูแล เพื่อสร้างความเข้าใจ ไม่ตื่นตระหนก และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งขอย้ำว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ต้องไปขึ้นทะเบียนหน่วยบริการใหม่ แต่ให้นำบัตรประชาชนไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทองได้ และ สปสช.จะดำเนินการให้การบริการเข้าสู่ระบบเดิมโดยเร็ว ต้องขอโทษประชาชนจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้”


นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากการทุจริตและทำเป็นกระบวนการ เมื่อขยายการตรวจสอบทำให้พบหน่วยบริการที่มีความผิดคล้ายกัน ทำให้ สปสช. ต้องดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียว ทั้งคลินิกเอกชน 18 แห่ง 64 แห่ง และ 108 แห่ง โดย สปสช.ได้ตรวจสอบคลินิกเอกชนที่ร่วมคลินิกชุมชนอบอุ่นเรียบร้อยแล้ว และคงไม่มีมากกว่านี้ ซึ่ง สปสช.จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกละเมิดสิทธิในการรักษาและคัดกรอง รวมถึงเงินภาษีของประชาชน แม้ว่าจะทำให้ให้ประชาชนขาดหน่วยบริการประจำดูแล แต่สิทธิบัตรทองของท่านยังอยู่
“วันนี้สิทธิบัตรทองยังอยู่ ไม่ได้ถูกยกเลิก เพียงแต่ไม่มีหน่วยบริการประจำหรือหน่วยบริการับส่งต่อ เป็นสิทธิว่าที่เข้ารับบริการที่ใดก็ได้ ซึ่งมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 3 แสนคน ส่วนอีก 1.7 ล้านคนยังไม่มีผลกระทบ โดยขอให้ประชาชนส่วนนี้ยังไม่ต้องเร่งลงทะเบียนหน่วยบริการใหม่ที่หน่วยบริการ เพราะจะทำให้หน่วยบริการเกิดความหนาแน่ฟและการบริการล่าช้าได้ หากต้องการตรวจสอบสิทธิสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ ทั้งนี้ สปสช.อยู่ระหว่างการเปิดรับสมัครหน่วยบริการใหม่ทดแทน โดยลดขั้นตอนและปรับเกณฑ์การประเมินที่เหมาะสม ไม่กระทบต่อคุณภาพ ซึ่งเมื่อได้หน่วยบริการแล้วจะเปิดให้ประชาชนเลือกหน่วยบริการประจำได้

นพ.การุณย์ กล่าวว่า กรณีการยกเลิกสัญญาเพิ่มเติม 108 แห่ง ในรอบนี้เป็นคลินิกเอกชนทั้งหมด ต่างจากการยกเลิกสัญญาในรอบที่ 2 ซึ่งมีโรงพยาบาลรับส่งต่อรวมอยู่ด้วย ทำให้เกิดผลกระทบกับผู้ป่วยเร่งด่วนจำนวนมากจนเกิดความกังวลและต้องมีการประสานการดูแลโดยเร็ว อย่างไรก็ตามการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบการยกเลิกสัญญาคลินิกเอกชน 108 แห่ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง สามารถเข้ารับบริการหน่วยบริการในระบบบัตรทองได้ โดยในกรณีที่ต้องการเวชระเบียน ข้อมูลยาและผลตรวจ สปสช.ได้เตรียมข้อมูลไว้แล้วโดยประสานกับศูนย์บริการสาธารณสุข ซึ่งผู้ป่วยสามารถขอรับข้อมูลได้โดยใช้บัตรประชาชน

ด้าน นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขเกินจริง กล่าวว่า จากการตรวจสอบคลินิกเอกชนในรอบแรก 18 แห่ง ทำให้ สปสช.ต้องขยายการตรวจสอบ รวมถึงคลินิกเอกชนที่เหลือ 108 แห่ง และพบว่ามีพฤติการณ์เช่นเดียวกันที่เป็นการเบิกจ่ายเท็จ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดอาญา เพราะเป็นเจตนาทำผิดโดยทำเอกสารเบิกเท็จ ไม่ใช่ความผิดพลาด เป็นการทุจริตเงินภาษีประชาชน สปสช.จึงต้องแจ้งความคลินิกเอกชนทั้งหมด โดยดำเนินการกับ 1.ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาล 2.ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และ 3.ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะเดียวกัน สปสช. เองต้องยกเลิกคลินิกเหล่านี้จากระบบเพราะเป็นการทำผิดสัญญา ทำให้ความเป็นหน่วยบริการของคลินิกในระบบสิ้นสุดลง
“การบอกเลิกสัญญากับคลินิกเอกชน 108 แห่ง แม้ประชาชนได้รับผลกระทบไม่มีหน่วยบริการประจำก็จำเป็นต้องทำ เพราะไม่เช่นนั้นทั้ง สปสช. และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จะถือเป็นปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ซึ่ง สปสช.กำลังแก้ไขปัญหาและเยียวยาผลกระทบอยู่” นายจิรวุสฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

นอนเรือนจำคืนแรก “เสก โลโซ” ปรับตัวได้ คุยปกติ

กรมราชทัณฑ์ 21 พ.ค. – คืนแรกเรือนจำพิเศษมีนบุรี “เสก โลโซ“ ปรับตัวได้ คุยปกติ หลับๆ ตื่นๆ บ้าง กักโรคโควิดก่อนแยกแดน ภายหลังศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 12 เดือน 20 วัน นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ศิลปินดัง ในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่, เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่คุมตัวนายเสกสรรค์ เข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เรือนจำพิเศษมีนบุรี ได้รับตัวนายเสกสรรค์ เข้ากระบวนการรับตัว คัดกรองแรกรับตามมาตรการกรมราชทัณฑ์ และส่งแยกกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ในพื้นที่ผู้ต้องขังรับใหม่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากการตรวจสุขภาพนายเสกสรรค์ พบว่าทั่วไปปกติ แต่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระหว่างกักโรค เจ้าตัวมีการพูดคุยสนทนา และให้ความร่วมมือกับราชทัณฑ์เป็นอย่างดี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมยวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก […]

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]