หนุนผู้ปกครองดำเนินคดี ครูทำร้ายเด็ก

กรุงเทพฯ 28 ก.ย..-นักวิชาการ เอ็นจีโอด้านเด็กและครอบครัว หนุนผู้ปกครองดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีครูทำร้ายเด็ก ชี้โรงเรียนต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย ส่งเสริมบทบาทผู้ปกครองร่วมตรวจสอบเฝ้าระวัง จี้พม.เร่งเยียวยาจิตใจเด็ก


นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า กรณีครูทำร้ายร่างกายเด็กอนุบาลตามที่ปรากฎเป็นข่าว ว่า ครูที่ทำร้ายเด็ก รวมถึง ครูที่พบเห็นเหตุการณ์แล้วนิ่งเฉย และผู้บริหารโรงเรียน ถือเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายเด็ก ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อจิตใจเด็ก กระทบต่อพฤติกรรมของเด็กที่แสดงออก เช่น ไม่อยากไปโรงเรียน หวาดกลัว ฝันร้าย สิ่งเหล่านี้ต้องการการเยียวยา และความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญในการเฝ้าระวังช่วยเหลือ และมีบทบาทร่วมดูแลเด็กในสถานศึกษา รวมทั้ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ต้องทำงานเชิงรุกคุ้มครองเด็ก

“อยากให้ พม.ที่มีหน้าที่หลัก และเป็นผู้ถือกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ได้ทำหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้ อย่างจริงจังฉับไว และ พม. ควรกระตุ้นการมีส่วนร่วมคุ้มครองเด็กในโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล สถานศึกษา พูดคุยให้ความรู้ บุคลากรในสถานศึกษา รวมทั้ง มาตรการทางกฎหมายหากมีการละเมิดเด็กเกิดขึ้น ควรสื่อสารต่อสังคมให้กว้างขวางถึงอำนาจหน้าที่และการช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ถูกกระทำ และขอเรียกร้องให้โรงเรียนมีแอพพลิเคชั่น ให้ผู้ปกครองโหลดเพื่อให้เห็นกล้องวงจรปิดในห้องเรียน บริเวณโรงเรียน เพื่อมีส่วนร่วมตรวจสอบ การเรียนการสอน การจัดการห้องเรียน โรงเรียนควรเป็นที่ปลอดภัย ไม่เป็นความลับ และควรส่งเสริม เพิ่มบทบาทของผู้ปกครองในสถานศึกษา ร่วมเฝ้าระวัง ช่วยเหลือ นักเรียน และตรวจสอบบุคลากรรวมทั้งผู้บริหารในโรงเรียน หากละเมิดเด็กหรือการกระทำใดๆ เครือข่ายผู้ปกครองมีสิทธิขอตั้งกรรมการสอบสวน ให้หยุดงาน หรือไล่ออกออกได้” นางฐาณิชชา กล่าว


ด้าน ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน นักวิชาการสื่อสารมวลชนอิสระด้านเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า กรณีนี้ความรุนแรงที่เกิดกับเด็ก เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเรื่องนี้ไม่ควรจบที่ครูผู้ที่กระทำเด็กเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่สถาบันการศึกษา และเจ้ากระทรวงต้องมีส่วนต่อความรับผิดชอบด้วย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มีเหตุการณ์ทำนองนี้หลายครั้งแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ปกครองไปฟ้องร้องเอาเอง พอจบกรณีนี้ เรื่องก็เงียบไป จากนั้นพอเกิดกรณีใหม่ ก็จะเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีก ต้องตั้งคำถามว่าสถาบันการศึกษามีมาตรการต่อการรับครูและครูพี่เลี้ยงอย่างไร และเมื่อครูเคยกระทำการไม่เหมาะสม ผู้บริหารได้ดำเนินการอย่างไร และมีวิธีตรวจสอบครูถึงวิธีการดูแลเด็กในแต่ละวันหรือไม่อย่างไร ส่วนเจ้ากระทรวงมองปัญหาและรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ควรตระหนักและมีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นโดยมีเด็กเป็นเหยื่อซ้ำซากอีก
“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของใครโดยลำพัง แต่เป็นปัญหาร่วมของสังคม ในเมื่อเราบอกว่าเด็กคืออนาคตของชาติ เด็กเล็กคือวัยทองแท้ของชีวิตมนุษย์ แล้วเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปได้อย่างไร เรามี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เรามีกฎหมายมากมายหลายฉบับ แต่ไฉนปัญหาเหล่านี้ยังวนเวียนอยู่ซ้ำๆ” ดร.สรวงมณฑ์ กล่าว

ด้าน นายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า การจับสัญญาณของเด็กๆเป็นเรื่องสำคัญมาก ความผิดปกติที่เด็กๆแสดงออกมีรูปแบบที่ต่างกันไป แต่หากผู้ปกครองจับสัญญาณดีๆจะพบความผิดปกติเกิดขึ้นได้เร็ว เช่น ไม่อยากไปโรงเรียน หวาดกลัว เงียบผิดปกติและไม่กล้าเล่าว่าอะไรเกิดขึ้น ร่างกายมีความผิดปกติเขียวช้ำ จากการถูกทำร้าย ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้ปกครองเท่านั้น ครูคนอื่นๆก็ควรมีจิตวิญญาณของความเป็นครู มีสัญชาตญาณระวังภัยให้กับเด็กๆ แต่จากคลิปในเหตุการณ์นี้ ครูทำเหมือนไม่มีอะไรร้ายแรง ทำเป็นเรื่องปกติ ไม่ห้ามปรามช่วยเหลือ จุดนี้น่ากลัวมากมันสะท้อนว่าโรงเรียนแห่งนี้มีปัญหารุนแรงจริงๆ และไม่มีใครรู้ว่าเป็นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว ล่าสุดมีข่าวว่ามีการไล่ออกครูผู้ก่อเหตุและครูที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว แต่ใช่ว่าผู้บริหารจะหลุดพ้นไปจากความรับผิดชอบ สิ่งที่อยากเห็นนอกจากคำขอโทษคือมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปิดทางไม่ให้เกิดขึ้น
“ขอสนับสนุนให้ผู้ปกครองเอาผิดครูที่ก่อเหตุและครูที่เพิกเฉย ให้เป็นตัวอย่างความรับผิดทางอาญา เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานว่า ครูไม่ว่าใครก็ตามคุณไม่สามารถละเมิดสิทธิของเด็กๆได้ ทั้งทางคำพูดและการกระทำ เรามีกฎหมายรองรับเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน กระทรวง พม.ต้องเดินหน้ายืนเคียงข้างเด็กๆและผู้ปกครองอย่างเต็มกำลัง รวดเร็ว ตอนนี้ต้องรีบเข้าเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็ก และอาจต้องช่วยกันออกแบบว่าจะทำอย่างไรให้เด็กๆในโรงเรียนนี้เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะไม่โดดเดี่ยว มีกลไกที่ช่วยเหลืออย่างเข้าใจ” นายชูวิทย์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]