กรุงเทพฯ 24 ก.ย.-“หมอเหรียญทอง” ชูแนวคิดตั้งคลินิกชุมชนอบอุ่นรับผู้ป่วยบัตรทอง หลัง สปสช.พบทุจริต ยกเลิกเป็นคู่สัญญา เผย นำร่อง 17 แขวง ลั่นหาก สธ.-สปสช. เอาจริง เดินหน้าได้ ต.ค.นี้
พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กล่าวถึงกรณีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตรวจพบคลินิกชุมชนอบอุ่นหลายร้อยแห่งมีการทุจริตค่าตรวจสุขภาพกลุ่มเมตาบอลิกผู้ป่วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ทำให้มีการเพิกถอนการเป็นคู่สัญญากับ สปสช.ส่งผลให้มีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ล้านคน ว่า การตรวจพบทุจริตแล้วดำเนินการเอาผิดนั้น เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่ไม่ควรบุ่มบ่าม ฉับพลัน ควรทำอย่างรอบคอบ มีขั้นมีตอน มีแผนรองรับ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
ทั้งนี้ กรณีที่ สปสช.ยกเลิกคลินิกไปหลายร้อยแห่ง มีผู้มีสิทธิบัตรทองได้รับผลกระทบมากกว่า 1 ล้านคน และตนทราบจากข่าวว่าอาจถึงขั้นที่คลินิกใน กทม.จะถูกยกเลิกการเป็นคู่สัญญากับสปสช.ทั้งหมด ดังนั้นจะมีประชาชนได้รับผลกระทบอีกมาก
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลจากการยกเลิกการเป็นคู่สัญญากับ สปสช.จะมีสถานะสิทธิว่าง ซึ่งสามารถเข้ารับการรักษาที่ รพ.ใดก็ได้ที่เป็นคู่สัญญากับทาง สปสช. แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบัน รพ.แต่ละแห่งนั้นต่างก็มีคนไข้ล้นอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่มีผู้ป่วยบัตรทองขึ้นทะเบียนตรงกับ รพ.อยู่ 70,000 คน และเป็นหน่วยรับส่งต่อให้กับคลินิกอีก 47 แห่ง รวมผู้ป่วย 2.3 แสนคน ซึ่งเมื่อคลินิกเหล่านี้ถูกยกเลิกสัญญาทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้มาเข้ารับการรักษาที่ รพ.มงกุฎวัฒนะโดยตรง ทาง รพ.ก็รับดูแลทั้งหมด แม้ว่าจะมีเรื่องของความแออัดบ้างก็ตาม แต่เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขเช่นเดียวกัน
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวต่อว่า และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ป่วย และลดความแออัดของ รพ.ด้วย ตนจึงมีแนวคิด จะจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เป็นนิติบุคคลที่ไม่หวังกำไร โดยเป็นนิติบุคคลเพื่อเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลคลินิกชุมชนอบอุ่นประจำแขวงในแต่ละเขต ก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 2.5 ล้านบาท และให้ผู้มีสิทธิบัตรทองในเขตนั้นๆ เป็นเจ้าของโดยมีหุ้นอยู่คนละ 1 หุ้น หุ้นละ100 บาท สัดส่วนให้ประชาชนมากกว่า หุ้นอีกส่วนถือโดยแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาล โดยรพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นสถานพยาบาลรับส่งต่อ โดยจะนำร่องใน 17 พื้นที่
พล.ต.นพ.เหรียญทอง กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานที่จะใช้การเช่าพื้นที่วัด โบสถ์ สุเหร่า ที่ดินว่างเปล่า อาคารพาณิชย์ หรือบ้านพักอาศัย ที่มีพื้นที่ขนาด 160 ตารางเมตรหรือ 40 ตารางวา เพื่อทำเป็นสถานพยาบาล ซึ่งการสร้างสถานที่นั้นจะใช้อาคารตั้งเป็นอาคารชั่วคราว ซึ่งมีแพทย์ พยาบาลพร้อมอยู่แล้ว ในส่วนนี้ไม่มีปัญหา แต่แนวคิดเหล่านี้ตนจะยังไม่ดำเนินการก่อนแล้วค่อยไปขอขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลคู่สัญญากับ สปสช.ทีหลังเพราะยอมรับตามตรงว่าไม่มั่นใจในภาครัฐ ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง จึงอยากให้ สปสช. กระทรวงสาธารณสุขมีความชัดเจนตรงนี้ แต่ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศความชัดเจนออกมา ตนคงไม่ประสานไปก่อน เพราะอาจจะทำให้ถูกมองเรื่องของผลประโยชน์
สำหรับคลินิกที่คาดว่าจะริเริ่มนำร่อง 17 แห่ง เปิดทำการทุกวันๆ ละ 12 ชั่วโมง รองรับผู้มีสิทธิแห่งละ 2 หมื่นคน ดังนี้ 1. คลินิกชุมชนอบอุ่นแขวงสีกัน เขตดอนเมือง 2. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง 3. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง 4.คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงสายไหม เขตสายไหม 5. คลินิกชุมชนอบอุ่นแขวงออเงิน เขตสายไหม 6. คลินิกชุมชนอบอุ่นแขวงคลองถนน เขตสายไหม 7.คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน 8.คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน 9. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว 10. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว
11.คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงลาดยาว เขตจตุจักร 12. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร 13.คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร 14. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงจอมพล เขตจตุจักร 15. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงจตุจักร เขตจตุจักร 16.คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ 17. คลินิกชุมชนอบอุ่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ตรงที่สำนักงาน ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ โทร.02-574-5000 ต่อ 8800 .-สำนักข่าวไทย