“วิษณุ”ขอคนไทยร่วมอนุรักษ์ ต่อยอดภาษาไทย

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-รองนายกฯ วิษณุ เปิดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พร้อมฝาก ราชบัณฑิตยสภา และคนไทย ร่วมกันอนุรักษ์ พัฒนา และต่อยอด คุณค่าทางภาษา ใช้ภาษาเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเสวนาวิชาการเนื่องในวันภาษาไทย รู้ทันสีสันภาษาสื่อ โดยสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ รู้ รัก ภาษาไทย พร้อมมอบเกียรติบัตรใก้แก่นักเรียนที่ชนะการประกวดเล่าเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นด้านอาหาร โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย โดยตามกำหนดเดิม การจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 29 กรกฏาคมของทุกปี แต่ปีนี้เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จึงเลื่อนการจัดงานมาวันนี้

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลขอบคุณราชบัณฑิตยสภา ที่มีการจัดงานวันภาษาไทยขึ้น หลังโควิด-19 ขึ้น แม้จะยกเลิกก็ได้ ซึ่งราชบัณฑิตยสภา เป็นหลักของประเทศในด้านภาษา หัวใจสำคัญคือ ภาษาไทย เมื่อเอ่ยถึงราชบัณฑิตจะต้องนึกถึงภาษาไทย เนื่องจากเป็นผู้จัดทำพจนานุกรมขึ้น เมื่อมีการถกเถียงในทางกฏหมายเรื่องภาษาที่ใช้ ศาลต้องให้เปิดพจนานุกรม เพื่อยุติ กล่าวกันว่าราชบัณฑิต ถือเป็นศาลฎีกา ของภาษาไทย คำใดที่ไม่มีในพจนานุกรม แม้แต่คำใดที่มีการถกเถียงกันในทางราชการ ต้องให้ถามราชบัณฑิตยสภา บทบาทของราชบัณฑิตยสภา มีความสำคัญมาก เมื่อถึงวันภาษาไทย ต้องมีการสืบทอด จัดงาน ทุกปี เพื่อให้หน่วยงานอื่นเจริญรอยตามในการให้ความสำคัญของภาษาไทย เพราะเป็นภาษาไทย เป็นภาษาที่คนไทยใช้ติดต่อสื่อสารกันมายาวนาน และมีภาษาเป็นของเราเอง เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ ต้อง รักษา พัฒนา และต่อยอด เป็นสิ่งที่ใช้ในการบันทึกเรื่องราวต่างๆของประเทศ การใช้ภาษา มีทั้งใช้ภาษาไทยให้เป็นประโยชน์ หรือใช้ในการประหัตประหารกัน ทำลายกัน หลอกลวง ต้องเลือกใช้ให้ถูกทาง


พร้อมขอบคุณราชบัณฑิต ที่จัดช่วง รู้ทันสีสันภาษาสื่อ ซึ่งเป็นการใช้ภาษาไทยในทางออนไลน์ หรือ ซึ่งมีความสำคัญมากกับยุคปัจจุบัน ที่จะได้รูเท่าทันและเข้าใจความหมายอย่างถูกต้อง

ด้านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องช่วยกันอนุรักษ์ สืบสาน ให้ภาษาไทยอยู่คู่สังคมไทยต่อไป ในฐานะภาษาแม่ แม้ในโลกยุคปัจจุบัน มีศัพท์ที่เกิดขึ้นใหม่ ทั้งศัพท์ทางดิจิทัล ต้องมีการบัญญัติขึ้นมาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง คือความสำคัญของราชบัณฑิตยสภา ต้องมีทั้งการอนุรักษ์ พัฒนา วิธีการใช้ให้ถูกต้องเพื่อส่งต่อคสามรู้จากรุ่นสู่รุ่น

นอกจากนี้ต้องสอดรับกับโลกยุคไอทีและรูปแบบการนำเสนอการเรียนการสอนต้องทันสมัย เพื่อสร้างความน่าสนใจในการเรียนภาษาไทยในอนาคต เช่น สร้างแอนิเมชันทางภาษา รวมทั้งต้องให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ภาษาถิ่นที่เป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษ ซึ่งราชบัณฑิตคือส่วนสำคัญ รวมถึงในโลกยุคข้อมูลข่าวสารเพื่อการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง ราชบัณฑิต มีการบัญญัตศัพท์ใหม่เพราะอาจมีศัพท์แสลงใหม่ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C