เสวนากฏหมายควบคุมน้ำเมา ไม่ลิดรอนสิทธิประชาชน

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.-เวทีเสวนา ย้ำกฎหมายควบคุมน้ำเมาไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เครื่องมือกลั่นแกล้งคนทำมาหากิน และไม่ได้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน


วันนี้ (2ก.ย.) ที่เดอะฮอลล์ บางกออก ในเวทีเสวนาหัวข้อ “ผ่าความจริง…มาตรา32คุมโฆษณาน้ำเมาเพื่อใคร” จัดโดย เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่

ผศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ แซ่โง้ว นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา โฟนอินร่วมเวทีว่า จากกรณีมีการขยายประเด็นโจมตี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา32 ว่าจำกัดสิทธิเสรีภาพ ขัดต่อรัฐธรรมนูญเกิดกระแสแบนหรือห้ามโฆษณาสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอ้างว่ามีประเทศไทยเพียงประเทศเดียวที่มีกฎหมายนี้ ตนมองว่าเป็นขบวนหนึ่งของการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เช่น กลุ่มธุรกิจ craft beer ที่ต้องการขยายตลาด เขามองว่าตัวกฎหมายจำกัดโอกาสขยายตลาด แม้ทุนใหญ่จะไม่กระทบมากนักแต่ถ้าแก้กฎหมายได้ ทุนใหญ่จะปลดล็อกและได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะทุ่มโฆษณาและการตลาดได้เพิ่มขึ้น


“ต้องสร้างความเข้าใจว่ากฎหมายนี้ ไม่ได้มีเพียงประเทศไทยที่บังคับใช้ แต่มีครอบคลุมประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง70%และอ้างอิงตามหลักการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) ต้องสร้างความชัดเจนขั้นตอนบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งอาจแก้ไขในกฎหมายลูกหรือชัดเจนในแนวทางปฏิบัติ เพื่อช่วยลดแรงกดดันจากภาคประชาชน และช่วยสร้างความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนด้วย” นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา กล่าว

ผศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ประเทศฟินแลน์ ถือว่ามีกฎหมายกำกับสื่อโฆษณาที่เข้มแข็ง ทำให้การดื่มลดน้อยลง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในประเทศอเมริกา ที่แบ่งสื่อ 3 ประเภท ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ และสื่อโทรทัศน์ พบว่า มาตรการแบนหรือควบคุมโฆษณาในสื่อ1ประเภท จะลดการดื่มในกลุ่มประชากรได้ถึง 5-8%ประกอบกับข้อมูลงานวิจัยภายในประเทศที่ไม่ได้กำหนดให้สื่อประเภทต่าง ๆ แบนการโฆษณาแอลกอฮอล์ในโทรทัศน์ พบว่า ถ้าดูโทรทัศน์เพิ่มขึ้นมากกว่า1ชั่วโมง/วัน มีโอกาสเริ่มเป็นผู้ดื่มมากขึ้น 9-30%

นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมโรคที่ 5 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าธรรมดาทำลายสุขภาพ จากการศึกษาทั่วโลกพบว่า หากจะหยุดยั้งภัยคุกคามนี้ ต้องใช้3มาตรการ 1.การจำกัดการเข้าถึงสถานที่/วันเวลา/บุคคล2.ขึ้นภาษี 3.ห้ามโฆษณาสื่อสารการตลาด และต้องทำทุกมาตรการไปพร้อมๆกัน ยิ่งมาตรการห้ามโฆษณา ถือว่า สำคัญมาก หากปล่อยให้โฆษณาอิสระ แล้วมาตรการอื่นๆแม้จะทำเต็มที่ ก็จะไม่ได้ผลสำเร็จ


“ขอย้ำว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้ขัดกับรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชนสากล เพราะร่างโดยผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับแนวหน้าของประเทศ และผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้อย่างชัดเจน ว่าไม่ได้ขัดแย้งกับกับรัฐธรรมนูญเพราะอยู่ภายในขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้อำนาจกระทำได้เพื่อความสงบเรียบร้อยหรือศิลธรรมอันดี ดังนั้นกฎหมายนี้จึงตรงตามเจตนารมณ์ที่จะช่วยสร้างเสริมสุขภาพ ส่วนมาตรา 32 เป็นมาตรการหนึ่งที่ใช้ควบคุมการโฆษณา ให้อยู่ในขอบเขต เนื่องจากไม่ได้ห้ามโฆษณาโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมาเกิดการหลบเลี่ยง ทำให้อิทธิพลของการโฆษณามีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอย่างมาก” นพ.สมาน กล่าว

นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า การเคลื่อนไหวขอแก้กฎหมายของกลุ่มคราฟเบียร์ มี 2 เรื่องคือ พ.ร.บ.สรรพสามิต เรื่องเงื่อนไขการผลิตสุราเบียร์เสรี และ 2.ขอแก้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยเฉพาะมาตรา 32 โดยมองว่าไม่เป็นธรรม ขัดขวางการทำธุรกิจสุรารายเล็ก กลั่นแกล้งคนหาเช้ากินค่ำ เป็นเครื่องมือหาประโยชน์จากสินบนนำจับ เลยเถิดไปถึงการอ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ โดยกลุ่มดังกล่าวเคลื่อนไหวหนัก ต้องการเปิดทางให้คราฟเบียร์เปิดเพจสื่อสารทางออนไลน์ อวดอ้างสรรพคุณได้ และจะพบบรรดาเพจต่างๆโชว์ตราสัญลักษณ์ ภาพบรรจุภัณฑ์ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย การรับจ้างโพสสื่อสาร รีวิวอวดอ้างสรพคุณ จูงใจให้ดื่ม และยังพบว่ากลุ่มนายทุนเจ้าใหญ่แบรนด์ดังๆก็ใช้การจ้างการโพสเช่นเดียวกัน

นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กล่าวว่า เรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามากที่สุดคือการโฆษณาตามมาตรา32ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ จึงเป็นเหตุผลว่าช่วงนี้ทำไมจึงมีการเรียกผู้ถูกร้องเรียนเข้ามา ให้ข้อมูลหรือเปรียบเทียบปรับ ส่วนหลักการตัดสินว่าผิดหรือไม่ ใช้แนวทางคือหากเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ทางการค้าตามนิยามในมาตรา3แล้ว ถ้าประชาชนเห็น ได้ยิน ทราบข้อความ ก็ถือว่าเป็นการโฆษณา โดยนิยามของข้อความ หมายถึง การกระทำให้ปรากฏด้วยอักษร ภาพ ภาพยนตร์ แสง เสียง เครื่องหมายหรือการกระทำอย่างใด ๆ ที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจความหมายได้ แต่หากเป็นการแสดงชื่อหรือเครื่องหมายซึ่งไม่ได้กระทำเพื่อประโยชน์ทางการค้า หากอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อมก็จะเป็นความผิดเช่นกัน ดังนั้น การที่ประชาชนทั่วไปโพสต์รูปลงในโซเชียลมีเดีย แล้วมีเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดอยู่ในรูปด้วย จึงไม่เป็นความผิด

“ขอให้ผู้ประกอบการระมัดระวังการรับสื่อโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจมาในรูปแบบต่างๆเช่น แผ่นป้ายไวนิล ป้ายชื่อร้าน เมนู อาหาร ร่ม แก้ว ถังน้ำแข็ง ฯลฯ โดยสื่อเหล่านี้จะไม่ระบุบริษัทผู้ผลิต หรือสถานที่ผลิต หากเขาเกลี้ยกล่อมให้รับสื่อด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น บอกว่าไม่ผิดกฎหมายหรือเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อยแล้ว หากสังเกตเครื่องหมายด้วยตนเองแล้วเข้าใจว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรรับสื่อนั้นมาใช้ หรือหากนำมาใช้จะต้องปิดเครื่องหมายนั้นเสียก่อน หากมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค1422 หรือที่สคอ.02-590-3035” นพ.พงศ์ธร กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี