สธ.24 ส.ค.-รพ.ระยอง สร้างเครือข่ายการรักษา กระจายความเป็นเลิศเฉพาะด้านสู่โรงพยาบาลอำเภอ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาระบบบริการ ลดความแออัดลดการรอคอย ใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลลดลงสูงสุด 55 นาที
วันนี้ (24ส.ค.)ที่ จ.ระยอง นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในการประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 ที่โรงพยาบาลระยอง และคลินิกชุมชนอบอุ่น เทศบาลนครระยอง ติดตามนโยบายการพัฒนาศักยภาพรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ
นพ.ประพนธ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่กลุ่มภาคตะวันออกให้มีความเข้มแข็ง เนื่องจากเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ มีนักลงทุนและแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้มารับบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพิ่มมากขึ้นด้วย ล่าสุดปี 2562 มีผู้เข้ารับบริการวันละ 4,000 คนเพิ่มขึ้นจาก ปี 2558 ที่มีเพียง 2,400 คน โดยในการเตรียมการรองรับโรงพยาบาลระยองได้พัฒนาระบบบริการเพื่อลดความแออัด โดยขยายโรงพยาบาลสาขาให้ครบ 4 มุมเมือง ได้แก่ โรงพยาบาลระยองสาขาเกาะหวาย สาขาเนินพระ สาขาตะพง คลินิกชุมชนอบอุ่น และคลินิกมิตรไมตรี ประชาชนพึงพอใจในการให้บริการของโรงพยาบาลระยองจากร้อยละ 62 ในปี 2561 เป็นร้อยละ 83 ในปี 2563
นอกจากนี้ยังเพิ่มความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในโรงพยาบาลประจำอำเภอ สร้างระบบเครือข่ายการส่งต่อผู้ป่วย เพิ่มระบบขนย้ายผู้ป่วยทั้งทางน้ำและอากาศ ระบบรักษาทางไกล(Telehealth) โดยสามารถตรวจสุขภาพได้โดยการใช้เครื่องตรวจทางการแพทย์ระยะไกล (Telemedicine) ที่บ้าน, ที่โรงงาน และที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จากนั้นผลการตรวจจะถูกส่งถึงโรงพยาบาล และปรึกษาแพทย์ผู้ให้การรักษาผ่านระบบออนไลน์ มีการรับยาใกล้บ้าน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มีประชาชนรับยาใกล้บ้าน 33 ราย และเพิ่มขึ้นเป็น 2,157 รายในเดือนเมษายน 2563
พร้อมกันนี้ โรงพยาบาลระยองยังเปิดคลินิกเฉพาะทางนอกเวลา เพิ่มการตรวจพิเศษผ่าตัดในคลินิกนอกเวลา ขยาย/ เพิ่มห้องผ่าตัด เตียงผู้ป่วยวิกฤติและกึ่งวิกฤติ ขยายหอผู้ป่วย พัฒนาศูนย์โรคหัวใจ จากการให้ บริการดังกล่าวทั้งหมดนี้ ทำให้ช่วยลดความแออัด ลดการรอคอย ผู้ป่วยนัดในโรงพยาบาลระยองได้ประมาณ 20 นาที และผู้ป่วยที่ไม่ได้นัดหมายลดการรอคอยได้สูงสุด 55 นาที.-สำนักข่าวไทย