โรงแรมรามา การ์เด้นส์ 12 มิ.ย. – “สมศักดิ์” รมว.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาระดับชาติ เรื่อง การดื้อยาต้านจุลชีพ ครั้งที่ 4 มีหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนหลายภาคส่วนเข้าร่วม 31 องค์กร
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดการประชุมสัมมนาระดับชาติ เรื่อง การดื้อยาต้านจุลชีพครั้งที่ 4 โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ , มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา , องค์กรอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ และหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนหลายภาคส่วน จำนวน 300 คน 31 องค์กร เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาของเชื้อดื้อยาจุลชีพเป็นปัญหาที่สำคัญ เพราะทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และส่งผลกระทบถึงภาคเกษตร อาหาร สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน การประชุมในครั้งนี้หวังอย่างยิ่งว่าจะสามารถลดผู้ป่วยจากเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพได้ตามเป้าหมาย รวมถึงยาต้านทางการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และมีการติดตามการปนเปื้อนในอาหารและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้คนไทยเสี่ยงจากเชื้อน้อยที่สุด การประชุมครั้งนี้จึงสำคัญมากเพราะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้จากคนหลายองค์กรทั้งในไทยและต่างประเทศ ปัญหาตอนนี้คือยังไม่มีบริษัทหรือห้างร้านที่ออกมาผลิตหรือขายยาที่เป็นการต้านจุลชีพ ตอนนี้มีคนดื้อยาสูงถึง 1.3 ล้านคนทั่วโลก และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ซึ่งคาดว่าใน 20-30 ปีข้างหน้า ถ้ายังไม่มียาต้านจุลชีพ จะทำให้คนไทยดื้อยาสูงถึง 10 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ กล่าวถึงประเด็นยาบ้า 1 เม็ด ว่า เมื่อวานนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง โดยจะเน้นเรื่องของการยึดทรัพย์ และการขยายผลด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งให้สํานักงานกฤษฎีกาตรวจสอบ ถ้าตรวจสอบแล้วเสร็จก็จะมีการประกาศใช้ ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะจบภายในเดือน มิ.ย. โดยมีการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยแก้ไขจากเดิมที่กำหนดยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม มาเป็นไม่เกิน 1 เม็ด น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม คือ ถ้าครอบครองยาบ้าเกินกว่า 1 เม็ด และน้ำหนักสุทธิเกิน 100 มิลลิกรัม ให้ถือว่ามีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย. -420 สำนักข่าวไทย