กทม.แจงงบ 3 ล้านบาท ไม่เกี่ยวกับการติดสติกเกอร์ใหม่

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – โฆษก กทม. แจงงบ 3 ล้านบาท ไม่เกี่ยวกับการติดสติกเกอร์ บนคานรางรถไฟฟ้า


นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีที่มีข้อสงสัยว่า กทม.ใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท เพื่อการออกแบบและติดสติกเกอร์ใหม่บนคานรางรถไฟฟ้านั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ข้อเท็จจริง คือ กทม.ใช้งบประมาณจ้างเหมาเอกชนดำเนินการกำหนดอัตลักษณ์และภาพลักษณ์หลักของกรุงเทพมหานคร ซึ่งดำเนินการมาแล้วเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ในวงเงิน 2,952,600 บาท โดย กทม.ได้หาตัวผู้รับจ้างด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรนิกส์ (e-Bidding) โดยใช้เกณฑ์คุณภาพ (70%) ประกอบเกณฑ์ราคา (30%) ดูบริษัทที่มีจุดเด่นและประสบการณ์ด้านการออกแบบ เป็นที่ยอมรับ ซึ่งระหว่างดำเนินการได้รับคำแนะนำและข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบและภาพลักษณ์องค์กรตลอดทั้งกระบวนการ เพื่อให้กำหนดการใช้อัตลักษณ์ของหน่วยงานกรุงเทพมหานคร (Bangkok Metropolitan Administration) สำหรับจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้มีความชัดเจน มีเอกลักษณ์เหมาะสม มีมาตรฐาน และมีความเป็นเอกภาพเป็นหนึ่งเดียวกัน ในการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร สร้างการรับรู้และจดจำอัตลักษณ์ของหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร

โครงการดังกล่าวประกอบด้วย 1.ระบบตราสัญลักษณ์ ได้แก่ ตราสัญลักษณ์มาตรฐาน ตราสัญลักษณ์แบบอักษร ตราสัญลักษณ์หน่วยงานในสังกัด กทม. ข้อกำหนดการนำไปใช้ 2.ระบบสี ได้แก่ ระบบสีหลัก ระบบสีรอง ระบบสีสัญลักษณ์ และข้อกำหนดการนำไปใช้ 3.ระบบตัวอักษร ได้แก่ ชุดตัวอักษรหลักภาษาไทย-อังกฤษ (เสาชิงช้า) ชุดตัวอักษรรองภาษาไทย-อังกฤษ (อนุพันธ์ และไทยสารบัญ) และข้อกำหนดการนำไปใช้ 4. ลวดลายกราฟิกอัตลักษณ์ จำนวน 2 ชุด 5. หลักเกณฑ์การใช้ภาพถ่ายประกอบกับตราสัญลักษณ์ 6. ชุดภาพและระบบสีของชุดภาพสัญลักษณ์ 7.รูปแบบการใช้สัญลักษณ์บนสื่อต่าง ๆ สำหรับการประชาสัมพันธ์ ได้แก่ สื่อออนไลน์ทั่วไป ข่าวทั่วไป เทศกาลต่าง ๆ การให้ข้อมูลในรูปแบบอินโฟกราฟิก การอ้างอิงคำพูด การประกาศ รูปแบบ VDO 8.รูปแบบการใช้สัญลักษณ์สำหรับงานต่าง ๆ ได้แก่ งานนำเสนอ (Powerpoint Template) การพิมพ์โปสเตอร์ การพิมพ์ฉากหลัง การพิมพ์แผ่นพับ การพิมพ์ประกาศนียบัตร จอดิจิทัลในศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง ใต้รางรถไฟฟ้า สื่อ VDO การขึ้นชื่อและตำแหน่งบนวิดีโอ เว็บไซต์ 9.การนำอัตลักษณ์ไปใช้กับวัสดุ อุปกรณ์ และป้ายหน่วยงาน/ส่วนราชการ (ตัวอย่างการออกแบบ) เช่น สมุดโทรศัพท์ ถุงกระดาษ กล่องพัสดุ จานอาหาร จานรองแก้ว แก้ว แก้วเซรามิค สมุดปากกา ดินสอ ป้ายชื่อประจำโต๊ะ นามบัตร บัตรแสดงตน สายคล้องบัตรแสดงตน บัตรผู้มาติดต่อ เสื้อโปโล เสื้อยืด เสื้อแจ็คเก็ต เน็กไท หมวกแก๊ป รถยนต์ รถกระบะ รถตู้ รถบัส รถบรรทุก รถขยะ รถจักรยานยนต์ ถังขยะ ป้ายหน้าหน่วยงาน/ส่วนราชการ เคาน์เตอร์บริการประชาชน และข้อกำหนดการนำไปใช้ 10.ตราสัญลักษณ์ประเภทเคลื่อนไหวสำหรับงานวิดีโอ ความยาว 2 วินาที 5 วินาที 10 วินาที 15 วินาที และ 11.คู่มืออัตลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร.- 417-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย