กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ ตรวจสอบกรณีระบบข้อมูลผู้ป่วยโรงพยาบาลศรีสะเกษ เกิดปัญหาความล่าช้า ภายใน 2 สัปดาห์ และประสาน สกมช. ร่วมตรวจสอบ ยันไม่มีข้อมูลรั่วไหล พร้อมเดินหน้ากำกับระบบข้อมูลดิจิทัลสุขภาพทุกแห่งเป็นมาตรฐานเดียว
วันนี้ (3 สิงหาคม 2566) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เกี่ยวกับระบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วยของโรงพยาบาลศรีสะเกษมีปัญหาล่าช้า จนกระทบต่อการรับบริการของประชาชน ว่า ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ลงไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ ก็มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน โดยได้กำหนดกรอบระยะเวลาการตรวจสอบภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร และมีผู้ใดเกี่ยวข้อง รวมถึงได้ประสานให้สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ซึ่งทำ MOU ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาช่วยตรวจสอบด้วย โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่า ข้อมูลไม่ได้มีการรั่วไหล แต่ระบบของข้อมูลมีความล่าช้า
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบดิจิทัลสุขภาพ เพื่อเชื่อมโยงระบบข้อมูลผู้ป่วยของโรงพยาบาลต่างๆ เนื่องจากที่ผ่านมาแต่ละแห่งใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลผู้ป่วยแตกต่างกัน ทำให้มีปัญหาต่างกันไป รวมถึงบางครั้งมีปัญหาเรื่องของค่าใช้จ่ายและลิขสิทธิ์ต่างๆ เมื่อต้องมีการอัปเดตโปรแกรม จึงต้องทำระบบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยกำลังเร่งออกมาตรฐานกลางและแอปพลิเคชันกลาง พร้อมกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการ ซึ่งทั้งหมดค่อนข้างใช้เวลามาก แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุขมีระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตามกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์. – สำนักข่าวไทย