กรมสุขภาพจิตชี้มุมมองทางการเมืองแต่ละบุคคลแตกต่างกันได้

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – กรมสุขภาพจิต ชี้มุมมองทางการเมืองของแต่ละบุคคลแตกต่างกันได้ วอนสื่อสารด้วยความเข้าใจ แตกต่างแต่ไม่แตกแยก


วันนี้ (15 พฤษภาคม 2566) กรมสุขภาพจิตขอให้สังคมติดตามการรายงานผลการเลือกตั้งด้วยสติ ใช้เวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผลการเลือกตั้งอย่างเหมาะสม เนื่องจากทุกบุคคลมีพื้นฐานความชื่นชม ศรัทธาและประสบการณ์ต่างกัน ย่อมมีความคาดหวังที่หลากหลาย ทำให้มีทั้งผู้ที่มีความเห็นแตกต่างและไม่สมหวังในผลของการเลือกตั้ง ครอบครัวและชุมชนควรสื่อสารกันด้วยความเข้าใจ ยอมรับและป้องกันความขัดแย้งอันจะนำไปสู่ความรุนแรงทั้งในครอบครัวหรือในสังคม

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากกระแสความใส่ใจในการเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 กรมสุขภาพจิตได้ติดตามสถานการณ์ทางอารมณ์และสุขภาพจิตของประชาชนอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับในทุกครั้งที่มีเหตุการณ์สำคัญในสังคม และจากรายงานทางระบบ Mental Health Check In ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 พบว่า ประชาชนมีระดับความเครียดเริ่มขยับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 2.17 ตั้งแต่ต้นปี 2566 และในระยะสองสัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง ระดับความเครียดขยับเพิ่มถึงร้อยละ 3.07 และมีระดับสูงขึ้นเท่าตัว คือสูงกว่าร้อยละ 6.0 ในบางวัน และในช่วงเวลาการรอคอยผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการนี้ มีแนวโน้มที่ความเครียดของประชาชนจะสูงขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในครอบครัวหรือกลุ่มต่างๆ ในสังคมที่มีสมาชิกหลายกลุ่มวัย ที่อาจมีผลต่อมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างได้มากขึ้น


แพทย์หญิงอัมพร กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้คือ สถานการณ์การรายงานผลการเลือกตั้ง ที่ประชาชนหลายภาคส่วนยังคงตั้งใจจดจ่อเพื่อติดตามว่าพรรคหรือบุคคลที่ตนเองเลือกจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ซึ่งในวงจรของการเลือกตั้งย่อมมีทั้งผู้ที่ลงคะแนนเลือกแล้วเป็นไปตามที่หวังและไม่สมหวัง หากผู้ที่ติดตามข่าวไม่สามารถดูแลอารมณ์ของตนได้ อาจเกิดปัญหาการมีปากเสียงหรือความรุนแรงที่เกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งได้ กรมสุขภาพจิตเสนอข้อแนะนำเพื่อการดูแลสุขภาพจิตและสัมพันธภาพกับคนรอบข้างในช่วงของการรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ด้วยหลัก 4 ไม่ 4 ต้อง โดย 4 ไม่ ได้แก่ 1.ไม่กดดัน ตำหนิ ผู้ที่มีความเห็นแตกต่าง 2.ไม่เยาะเย้ย ดูถูก หรือถากถาง ผู้ที่ผิดหวัง 3.ไม่ใส่อารมณ์ ความรู้สึกกับข่าวมากเกินไป 4.ไม่ล้อเลียน ไม่ซ้ำเติมความผิดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์

4 ต้อง ประกอบด้วย 1.ต้องรับฟังอย่างเปิดใจ 2.ต้องหลีกเลี่ยงการรับข่าวสารมากเกินไป 3.ต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจตนเอง 4.ต้องให้กำลังใจ พูดคุย ด้วยสติและถ้อยคำที่สุภาพแสดงความห่วงใย โอกาสนี้นอกจากผู้ที่ไม่สมหวังจะต้องยอมรับในความเห็นที่แตกต่าง ผู้ที่สมหวังเองก็ต้องแสดงออกถึงการให้เกียรติ มีน้ำใจนักกีฬา โดยยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เพื่อให้ครอบครัวหรือญาติมิตรได้ปรับปรุงสายใยความผูกพันและสังคมก็สามารถดำเนินพัฒนาการทางการเมืองระดับมหภาคต่อไปได้ ด้วยความสงบและสันติสุข

กรมสุขภาพจิตขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารผลของการลงคะแนนการเลือกตั้งอย่างมีสติและปล่อยใจให้สงบ แต่หากรู้สึกเครียดสามารถสำรวจสุขภาพใจด้วย Mental Health Check-In (MHCI) เพื่อรับทราบแนวทางการดูแลตนเอง หรือรับการปรึกษาที่สถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง เสริมสร้างสุขภาพใจและสายใยครอบครัว ในช่วงลุ้นผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้