9 พ.ค. – กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะหน่วยเลือกตั้งยังต้องดูแลความสะอาดเพื่อลดความเสี่ยงโรคโควิด-19 เนื่องจากมีประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยังเป็นช่วงที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน จึงอาจทำให้หลายพื้นที่มีฝนตก ส่งผลให้ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้นและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ได้ กรมอนามัยจึงขอความร่วมมือหน่วยเลือกตั้งให้ดูแลความสะอาด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนี้
1) สถานที่เลือกตั้ง ควรจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี ไม่แออัด
2) ในหน่วยเลือกตั้งควรกำหนดจุดให้มีเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการประชาชน ทั้งก่อนเข้าและออกจากหน่วยเลือกตั้ง
3) ควบคุม ดูแล ให้ผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง และผู้ที่อยู่ในหน่วยเลือกตั้ง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
4) จัดระยะห่างของผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนเข้าไปยังคูหา เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดระหว่างกัน
และ 5) ควรมีการทำความสะอาดอุปกรณ์ หรือจุดที่มีการสัมผัสร่วมกัน หรืออาจให้ประชาชนนำปากกาส่วนตัวมาเอง ซึ่งสามารถทำได้ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
“สำหรับประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ควรตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ เพื่อลดความแออัดในการเปิดดูบัญชีรายชื่อบริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง นำปากกาไปเองเพื่อลดการสัมผัสร่วม ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูกโดยไม่จำเป็น รวมทั้งล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าและออกจากหน่วยเลือกตั้ง และควรเว้นระยะห่างระหว่างต่อแถวเข้าคูหา ไม่รวมกลุ่มพูดคุยและใช้เวลาให้น้อยที่สุด
นอกจากนี้ ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะสถานที่เลือกตั้งบางแห่งอาจอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง อากาศร้อน อาจทำให้เสียเหงื่อมาก ควรพกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย รวมถึงเตรียมหมวกหรือร่มเพื่อป้องกันแดดและฝน
ทั้งนี้ หากหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าโดนฝนหรือเปียกชื้นควรเปลี่ยนหน้ากากชิ้นใหม่ สำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เมื่อสัมผัสกับอากาศที่ร้อนจัดอาจมีอาการผิวหนังแดงและแห้ง ตัวร้อนจัด ไม่มีเหงื่อ สับสน มึนงงหรืออาจหมดสติได้ จึงควรมีผู้ดูแลร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อให้การดูแลอย่างใกล้ชิด และช่วยเหลือได้ทัน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว. – สำนักข่าวไทย