แพทย์ห่วงเด็ก-คนแก่-ทำงานกลางแจ้ง ป่วยฮีทสโตรก 

สถาบันประสาทวิทยา 31 มี.ค. – แพทย์เผยภาวะฮีทสโตรก ไม่ทำให้เสียชีวิตทันที ยกเว้นมีปัจจัยร่วม เช่น หัวใจ ห่วงเด็ก คนแก่ โรคเรื้อรัง อ้วน ดื่มสุราจัด เสี่ยงเกิดผลกระทบหากอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน แนะดื่มน้ำ หลบเลี่ยงแสงแดด


นพ.ธนบูรณ์ วรกิจธำรงค์ชัย นายแพทย์ชำนาญพิเศษ อายุกรรมสมองสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์  กล่าวถึงภาวะฮีทสโตรก ว่า เป็นภาวะที่อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เฉลี่ย 40 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีผลทำให้ทั้งพฤติกรรมของร่างกายเปลี่ยนไป ร่างกายอ่อนแอ เกิดภาวะหมดสติ มีสัมปชัญญะลดลง หรือภาวะล้มเหลวของระบบทางเดินหายใจ หรือมีอาการชักร่วม พบได้ในผู้สูงอายุ เด็กเล็ก คนที่มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนหรือดื่มสุราจัด และคนที่มีกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ส่วนการเสียชีวิตจากภาวะฮีทสโตรกเพียงอย่างเดียวนั้น เกิดขึ้นน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นการเสียชีวิตที่มีปัจจัยร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจ หรือภาวะความดันโลหิตสูง

นพ.ธนบูรณ์  กล่าวว่า อาการของฮีทสโตรกจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่ง ร่างกายเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากนั้นจะส่งผลให้ระบบการทำงานของระบบประสาท เกิดความผิดปกติ เมื่อร่างกายสูญเสียน้ำมากเกิดภาวะตับวายไตวายกล้ามเนื้อแตก โลหิตเป็นพิษ ส่วนใหญ่กลุ่มคนเหล่านี้มักพบคนที่มีกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานและสูญเสียน้ำมาก ดังนั้น ทุกครั้งที่ออกไปเผชิญกับแสงแดดควรต้องดื่มน้ำให้มากโดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็ก สำหรับการป้องกัน ทำได้เพียงหลบเลี่ยงแสงแดดในเวลาที่ร้อนจัดตั้งแต่ 10.00-14.00 น. ควรอยู่ในที่ร่ม ดื่มน้ำสะอาดโดยเฉพาะน้ำเปล่าปริมาณมากและควรสวมเสื้อผ้าที่มีการถ่ายเทอากาศได้ดี เพื่อระบายความร้อนในร่างกาย หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งควรสวมใส่หมวกปีกกว้างหรือกลางร่ม เพื่อป้องกันแสงแดดและใช้ระยะเวลาการทำกิจกรรมการแจ้งให้น้อยที่สุด หากต้องใช้แรงหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งงดการสวมใส่หน้ากากอนามัย เพราะจะทำให้การหายใจไม่คล่องตัวมากเหมือนกับปกติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

“บิ๊กต่าย” สั่งขยายผลแก๊งทำคอนเทนต์ รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์”

“บิ๊กต่าย” สั่งการขยายผลกระทำผิดของแก๊งทำคอนเทนต์ ที่รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์” ทั้งในอดีตและปัจจุบัน หากการกระทำไหนเข้าข่ายความผิด ก็ดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกกรณี

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเชจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]