รองเลขาธิการ UN ชื่นชม ก.มหาดไทย น้อมนำแนวพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ “หมู่บ้านยั่งยืน”

26 มี.ค. – รองเลขาธิการ UN ชื่นชมกระทรวงมหาดไทยน้อมนำแนวพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ “หมู่บ้านยั่งยืน” และ Fashion Sustainability มุ่งขับเคลื่อนขยายผล Best Practice บ้านโก่งธนู-ดอนกอย สู่หมู่บ้านยั่งยืนทั่วประเทศ พร้อมยกย่องการขับเคลื่อนตามแนวพระดำริสอดคล้องเป้าหมาย SDGs ที่มีคุณภาพ พร้อมจับมือเป็น Partnership เดินหน้าเผยแพร่เป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่น ๆ ในเวทีสหประชาชาติต่อไป


วันนี้ เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้การต้อนรับ คุณอาร์มิดา ซัลเซีย อาลีเชียบานา รองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติและเลขาธิการบริหารคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) และคณะผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่บ้านเกาะหมู่ที่ 5 ตำบลโก่งธนู และวัดญาณเสน ตำบลโก่งธนู ในเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี สกลนคร ปัตตานี พัทลุง คณะที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก คณะที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะอุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่ายให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พวกเราชาวมหาดไทยและภาคีเครือข่ายในทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอ 7,255 ตำบล 75,058 หมู่บ้าน มี Passion ในการน้อมนำเอาแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หมู่บ้าน” ซึ่งเป็นหน่วยการปกครองที่เล็กที่สุดให้เป็นหมู่บ้านที่ยั่งยืน ดังที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อความเท่าเทียม และการพัฒนาที่ยั่งยืน” อันเป็นความมุ่งมั่น (Commitment) ที่พวกเราต้องการให้เกิดการ Change for Good ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้ง 65 ล้านคนให้สำเร็จก่อนเป้าหมายที่ทุกประเทศสมาชิก UN ตั้งเป้าไว้ในปี 2573


“พื้นที่บ้านเกาะ หมู่ที่ 5 ตำบลโก่งธนู ในเขตขององค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรีแห่งนี้ เป็น Best Practice ที่เป็นพื้นที่ต้นแบบการบริหารจัดการชุมชนเพื่อความยั่งยืนและเป็นภาคีเครือข่าย (Partnership) ของกระทรวงมหาดไทย ในการบูรณาการขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน พ.ศ. 2573 (2030 Agenda for Sustainable Development) โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว และ “ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน” โดยนำพื้นที่สาธารณะมาปลูกไม้ผลเต็มพื้นที่ และต่อมาด้วยพระเมตตาของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงน้อมนำเอาสิ่งที่เป็นความสำเร็จของตำบลโก่งธนู คือ ความมั่นคงด้านอาหาร และน้อมนำพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องของการนำเอาภูมิปัญญาผ้าไทย มาส่งเสริมก่อให้เกิดรายได้เพิ่ม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยพระราชทาน “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” และทรงเชื้อเชิญดีไซเนอร์และผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะทำงาน และขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมมือกับ UN เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนได้บริหารจัดการขยะดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น ทุกครัวเรือนได้คัดแยกขยะโดยคัดแยกขยะเปียก (Food Waste) เพื่อลงสู่ถัง “ขยะเปียกลดโลกร้อน” ซึ่งเป็นแนวคิดของ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ต่อยอดการหมักปุ๋ยในลักษณะระบบเปิด คือ ทำเสวียน สู่การทำถังขยะระบบปิด ต่อมาจึงเรียกว่า “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งดี ๆ จำนวนมากในอดีตเป็นการขับเคลื่อนโดยการนำของระบบราชการและเป็นการทำงานแบบแยกส่วน เช่น ถ้าปลูกผักก็เด่นเรื่องปลูกผัก แต่เรื่องการบริหารจัดการขยะก็ไม่ได้ทำ เรื่องของการส่งเสริมผ้า เราก็ส่งเสริมในเรื่องของการผลิต แต่ไม่ได้ส่งเสริมเรื่องการพัฒนาต่อยอด แต่ด้วยพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเล็งเห็นถึงองค์รวมของคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทย พระองค์จึงพระราชทานโครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) และทรงอนุญาตให้กระทรวงมหาดไทยน้อมนำไปขับเคลื่อน โดยมีแรงหนุนเสริมสำคัญจากคุณกีต้า ซับบระวาล ผู้ประสานงาน UN ประจำประเทศไทย และคณะ ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนความเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปสู่ครอบครัวพี่น้องประชาชนในเชิงคุณภาพ โดยเน้นให้เกิดการทำงานแบบ Partnership (ภาคีเครือข่าย) ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน มีความคึกคักและเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น เป็นการตอกย้ำว่า สิ่งที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดได้ประกาศเจตนารมณ์กับ UN เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 นั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชิญชวนทุกภาคส่วนของสังคมมาเป็นคณะทำงาน ทั้งผู้นำศาสนาพุทธคือพระ ผู้นำศาสนาอิสลามคือโต๊ะครู ฯลฯ และนักธุรกิจเอกชน นักวิชาการ ผู้นำ NGO สื่อมวลชน ภาคประชาสังคมในพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนในระดับอำเภอ ท่านนายอำเภอก็ไปสร้างทีม Change Agent ผู้นำการเปลี่ยนแปลง คือ “ทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ซึ่งปัจจุบันนี้ผลที่ปรากฏเป็นรูปธรรม คือ ประชาชนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชนมีความรัก ความสามัคคี และความปรองดอง

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กล่าวว่า ขณะนี้ครัวเรือนทั้งประเทศไทย มีประมาณ 15 ล้านครัวเรือน จำนวนนี้เป็นครัวเรือนที่ปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ทำให้ลดรายจ่าย มีอาหารปลอดภัยไว้บริโภค มีกิจกรรมที่ทำให้เกิดความรักสามัคคีในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น มากถึง 14 ล้านครัวเรือน อันเป็นหลักประกันว่าไม่ว่าจะเกิดภัยใด ๆ เราจะมีอาหารรับประทานตลอด 365 วัน นอกจากนี้ ยังลดรายจ่ายของครัวเรือนวันละ 50 บาท หรือปีละ 255,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจที่พี่น้องประชาชนสามารถช่วยเหลือตนเองได้ นอกจากนี้แล้ว กว่า 13.8 ล้านครัวเรือน มีการคัดแยกขยะ และนำขยะเปียกไปใส่ถังขยะเปียกลดโลกร้อน ทำให้สามารถช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 5.4 แสนตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และขยะเปียกเหล่านั้นจะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยหมักหรือสารบำรุงดิน เพื่อช่วยทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ลำพังกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 คน นายอำเภอ 878 อำเภอ ร่วมกับภาคีเครือข่ายใน 7,255 ตำบล คงไม่สามารถทำงานที่เป็นผลเป็นรูปธรรมเช่นนี้ได้ ถ้าไม่มีหลักชัยหรือแม่เหล็กแห่งการทำให้หมู่บ้านยั่งยืน คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และ UN ประจำประเทศไทย ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและพลังในการที่พี่น้องประชาชนจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สู่การพัฒนาตนอย่างยั่งยืน


“ในเรื่องการต่อยอดการส่งเสริมผ้าไทยตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงรื้อฟื้นผ้าไทยนั้น พระองค์ทรงซื้อผ้าจากชาวบ้าน ด้วยแนวพระราชดำริ “ขาดทุนคือกำไร” ขาดทุนของพระองค์ท่าน คือ กำไรของชาวบ้าน ทรงซื้อมาเก็บเพื่อเป็นการกระตุ้นปลุกเร้าให้วงจรการผลิตผ้าเกิดขึ้น ซึ่งในอดีตนั้นก็เกิดการความสนใจเป็นช่วง ๆ และยังใช้สีเคมีเป็นสีทอผ้า เนื่องจากยังเป็นช่วงเริ่มต้นของการดึงให้คนกลับมาผลิตผ้า และต่อมาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเรื่อง Sustainable Fashion ด้วยการส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกฝ้าย ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และใช้สีธรรมชาติจากต้นไม้ ดิน น้ำ จากสิ่งที่อยู่รอบตัวของพี่น้องประชาชนบวกกับเรื่องของการนำเอาแฟชั่นสมัยใหม่ ในเรื่องของการดีไซน์ ออกแบบตัดเย็บ ออกแบบลวดลาย โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องแฟชั่นสมัยใหม่ สีธรรมชาติ และสื่อสารมวลชนมาร่วมกันจนทำให้ทุกวันนี้เกิดความนิยมและทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้สูงจนน่าตกใจ เช่นที่ บ้านดอนกอย จ.สกลนคร ได้น้อมนำแนวพระดำริไปขับเคลื่อน ทำให้จากเดิมที่รายได้ 700 บาท/คน/เดือน ปัจจุบันนี้มีรายได้เกือบ 20,000 บาท/คน/เดือน ด้วยความนิยมของพี่น้องประชาชนที่ได้ซื้อผ้าธรรมชาติ ผ้าที่มีการออกแบบลวดลาย สี ที่ถูกอกถูกใจ ด้วยเพราะการเรียนรู้ตามแนวพระดำริจากดีไซเนอร์ชื่อดัง แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายของพระองค์ท่าน ของกระทรวงมหาดไทย และ UN สอดคล้องเชื่อมโยงกัน คือ มุ่งเน้นให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเอง ช่วยเหลือตนเองได้ โดยการสนับสนุนให้เขามีโอกาสได้รับการถ่ายทอด ได้รับการโค้ชชิ่งจากผู้เชี่ยวชาญ และเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้มีการรวมกลุ่ม และให้กลไกตลาดเป็นตัวก่อให้เกิดรายได้ และเกิดการดำรงคงอยู่ของอาชีพที่ยั่งยืนต่อไป” ดร.วันดี กล่าวเพิ่มเติม

คุณอาร์มิดา ซัลเซีย อาลีเชียบานา กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาเยือนที่นี่ในวันนี้ และได้เห็นการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งระหว่าง UN ในประเทศไทยและกระทรวงมหาดไทยเพื่อเร่งพัฒนาตามเป้าหมาย SDGs โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำการพัฒนาในจังหวัด ซึ่งตนรู้สึกประทับใจอย่างมาก โดย ESCAP มีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นกับประเทศไทยในการดำเนินการพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่ครอบคลุม ยืดหยุ่น และแฝงไปด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งวันนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ตนและทีม UN จะได้ทำความเข้าใจการทำงานในระดับท้องถิ่น เพื่อทำงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และยกระดับประเทศไทยสู่เวทีระดับภูมิภาค ด้วยผลงานที่โดดเด่นในมิติของ SDGs ข้อต่าง ๆ ที่ประเทศอื่นสามารถนำไปปรับใช้ได้ ทั้งเรื่องความมั่นคงด้านอาหารที่ยั่งยืนและการคัดแยกขยะในระดับครัวเรือน ทำให้มีคาร์บอนเครดิตกว่า 530,000 ตัน นอกจากนี้ ตนยังให้ความสนใจเกี่ยวกับการประเมินระดับคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของการผลิตผ้าไทย และวิธีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตของผ้า ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป อันจะส่งผลให้เกิดการก้าวกระโดดไปสู่การผลิตผ้าไทยในรูปแบบสีเขียวและได้รับการยอมรับในระดับโลกต่อไป

คุณอาร์มิดา ยังได้ติดตามพระกรณียกิจโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ที่ทรงฟื้นฟูการทอผ้าแบบโบราณ ฟื้นฟูการย้อมสีธรรมชาติ การใช้เส้นใยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไหมหรือฝ้าย โดยมีกลุ่มทอผ้าต้นแบบจาก 4 จังหวัด 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคใต้ กลุ่มมีดีนาทับ กลุ่มผลิตผ้าบาติก จ.สงขลา รางวัลเหรียญทองแดง การประกวดผ้าลายพระราชทานที่ขยายโอกาสให้นักเรียนจากการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เข้ามาฝึกอาชีพสร้างรายได้ จากลายผ้าพระราชทาน ภาคเหนือ กลุ่มตะเคียนปม อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน ที่ฟื้นฟูการปลูกฝ้าย เข็นฝ้าย ฟื้นฟูการปลูกฮ้อม และย้อมสีธรรมชาติจากฮ้อม ภาคอีสาน จาก Donkoi Sustainability Village โครงการที่พระราชทานเป็นต้นแบบหมู่บ้านยั่งยืน ที่เป็นแนวทางให้พัฒนาทั้งระบบจนประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน มีรายได้รวมต่อเดือนราว 1.7 ล้านบาท ภาคกลาง กลุ่มเยาวชนทอผ้าจากอำเภอเนินขาม จ.ชัยนาท ที่ได้รับพระราชทานแนวทางการพัฒนาสีจากหนังสือเทรนด์บุ๊ก มาฟื้นฟูภูมิปัญญาสีธรรมชาติจากบรรพบุรุษ ซึ่งทาง UN เรียกโครงการเหล่านี้ว่า Fashion Sustainability ที่เกิดจากแนวพระดำริทั้งระบบเพื่อสร้างความยั่งยืนรอบด้าน ในการนำประสบการณ์ด้านแฟชั่นส่วนพระองค์ มาพระราชทานให้กับประชาชน ก่อให้เกิดรายได้และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“ความมุ่งมั่นของกระทรวงมหาดไทยในการทำให้ SDGs สามารถขับเคลื่อนในระดับท้องถิ่น การสร้างขีดความสามารถของหน่วยงานระดับภูมิภาค และการเสริมสร้างความร่วมมือกับสหประชาชาติจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนไทยและทำให้ประเทศไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคต่อไป” คุณอาร์มิดา กล่าวในช่วงท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]