รองผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันไม่ใช้กำลังทำร้ายผู้ค้าสีลม

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – “จักกพันธุ์” รองผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันไม่ใช้กำลังทำร้ายผู้ค้าสีลม ยึดหลักประนีประนอมจัดระเบียบคืนทางเท้าให้คนเดิน


(21 ม.ค. 66) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงชี้แจงกรณีการจัดระเบียบการทำการค้าบนทางเท้าถนนสีลม ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร โดยมีนายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร และนางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก ร่วมแถลงข่าว

รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าว่า ในฐานะรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องเทศกิจ รวมถึงฝ่ายเทศกิจของสำนักงานเขตด้วย จากช่วงเวลาที่ผ่านมาทางเท้าของกทม. มีผู้ค้าขายเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันมีผู้ทำการค้าบนทางเท้าประมาณ 700 แห่ง ผู้ค้าประมาณ 20,000 ราย หลังจากเข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่มีการหารือพูดคุยกันคือการจัดระเบียบผู้ค้าที่อยู่บนทางเท้า โดยวัตถุประสงค์สำคัญของทางเท้านั้นเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในการสัญจร ขณะเดียวกันทางเท้าก็มีกฎหมายที่ให้ประชาชนหรือผู้ค้าที่มีความประสงค์จะทำการค้าขายต้องขออนุญาต ซึ่งขั้นตอนการขออนุญาตก็มีอยู่ตามกระบวนการ


โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นมา ได้มอบหมายให้สำนักเทศกิจและสำนักงานเขต สำรวจพื้นที่ในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นที่ที่ไม่ใช่ทางเท้า เพื่อในอนาคตจะให้ผู้ค้าที่อยู่บนผิวจราจรได้เข้าไปขายในที่ที่เหมาะสม และมีความถาวร ในขณะนั้นสำรวจพื้นได้ 125 แห่ง รองรับผู้ค้าได้ประมาณ 10,000 ราย หลังจากนั้นจึงนำมาพิจารณาว่าที่ตรงไหนเหมาะสมสำหรับทำการค้าขายต่อไปในอนาคต รวมถึง Hawker Center (ศูนย์อาหาร) ด้วย ซึ่งมีหลายจุดที่สำนักงานเขตกำลังสำรวจ หลายจุดอยู่ในระหว่างการเจรจากับเจ้าของที่ และหลายจุดเป็นที่ของกทม.เอง

ในส่วนของการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในหน้าที่ของสำนักเทศกิจในด้านการจัดระเบียบเมือง โดยมีขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจน ตามพรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ในขั้นต้นเมื่อพบการกระทำผิดต้องไปชี้แจงแนะนำให้ทำการแก้ไข หากแก้ไขแล้วถือว่าไม่มีความผิด หากยังไม่แก้ไข เจ้าพนักงานสามารถจับกุมผู้กระทำความผิด ยึดของกลางมายังสำนักงานเขต และมีการเปรียบเทียบปรับดำเนินคดี ซึ่งเป็นระเบียบขั้นตอนที่ปฏิบัติมาโดยตลอด สำหรับกรณีที่ถนนสีลม ได้มีการประชาสัมพันธ์แก่ผู้ค้าบริเวณถนนสีลมมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และได้ทำตามระเบียบขั้นตอนตามที่กล่าวข้างต้น

ด้านนางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานเขตได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากผ่านหลายช่องทาง ทั้ง traffy fondue ทางออนไลน์และออฟไลน์ เรื่องการตั้งแผงค้ารุกล้ำทางเท้าบริเวณถนนสีลม ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรทั้งทางเท้าและท้องถนน ซึ่งสำนักงานเขตบางรักได้เจรจาพูดคุยขอความร่วมมือกับกลุ่มผู้ค้าให้ย้ายจุดทำการค้า ได้ดำเนินการโดยมีการออกประกาศสำนักงานเขตห้ามตั้งวางจำหน่ายสินค้าในบริเวณที่กำหนดครั้งแรกให้มีผลในเดือนพฤศจิกายน 2565 และมีประกาศในวันที่ 25 ธันวาคม 2565 แจ้งการลงพื้นที่ถนนสีลมพูดคุยกับผู้ค้าให้ย้ายแผงค้าออกจากพื้นที่ มีผลวันที่ 2 มกราคม 2566 และออกประกาศห้ามตั้งวางฯ ครั้งที่ 2 มีผลวันที่ 17 ม.ค. 66 โดยระหว่างนั้นได้มีการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์และเจรจาขอความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเชิญผู้ค้ามาร่วมประชุมและชี้แจงจุดผ่อนผันการค้าหลายครั้งในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้ค้าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือย้ายจุดการค้าไปอยู่ในถนนคอนแวนต์ ซอยศาลาแดง ตรงข้ามวัดแขก และตลาดพัฒน์พงษ์ จะมีเพียงบางรายที่ฝ่าฝืน และจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายกับรายที่ต่อต้าน อย่างไรก็ตามเขตยังยืนยันที่จะใช้วิธีการเจรจาและระมัดระวังการกระทบกระทั่งกับผู้ค้า


สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ถนนสีลมตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ชี้แจงว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์วันที่ 20 ม.ค. ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ค้ารายนี้ ได้ความว่า ฝ่ายเทศกิจของสำนักงานเขตบางรัก ได้ตกลงเตรียมพื้นที่แห่งใหม่สำหรับค้าขายไว้ให้ในซอยศาลาแดง แต่ยังไม่ดำเนินการให้ ทั้งนี้สำหรับผู้ค้าในพื้นที่ถนนสีลม ได้เตรียมที่สำหรับทำการค้าไว้ให้แล้ว 3 แห่ง คือ ซอยศาลาแดง ซอยคอนแวนต์ และถนนสีลมตรงข้ามวัดแขก ตนจึงได้สั่งการโดยตรงไปยังหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตบางรัก ให้ได้พูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อย แต่หลังจากนั้นหัวหน้าฝ่ายเทศกิจได้รายงานว่าผู้ค้ารายนี้ไม่ยอมเข้าไปทำการค้าในพื้นที่ที่จัดให้

รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 20 ม.ค. ได้ลงพื้นที่ถนนสีลมหลังการจัดระเบียบแล้ว ซึ่งตลอดถนนทั้งสายมีผู้ค้าเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ลงขายบนทางเท้าเกินกำหนด จึงได้เข้าพบพร้อมหัวหน้าฝ่ายเทศกิจเพื่อชี้แจงว่าปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และขอให้ย้ายออกจากจุดนี้ ซึ่งผู้ค้ารายนี้ไม่ยอมปฏิบัติตามพร้อมทั้งเตรียมที่จะขายของต่อ จึงได้แจ้งว่าจำเป็นต้องยึดของกลางไปที่สำนักงานเขต เพื่อให้ผู้ค้าหยุดทำการค้าขายไปก่อนและไปพูดคุยทำความเข้าใจที่สำนักงานเขต ขณะที่กำลังพูดคุยทำความเข้าใจและยึดของกลาง มีประชาชนเริ่มเข้ามารุมล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีการด่าทอเจ้าหน้าที่ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ถอยออกมาเพื่อให้ไม่เกิดการกระทบกระทั่ง โดยระหว่างถอยออกมามีหญิงท่านหนึ่งเดินมาประกบหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ ซึ่งตนเดินตามอยู่ด้านหลัง ขณะที่กำลังเดินออกมาหญิงท่านนั้นก็ล้มลงไปเองโดยที่ไม่มีใครแตะต้องตัวเลย หลังจากล้มลงชายคนหนึ่งได้ชี้ไปที่หัวหน้าฝ่ายเทศกิจพร้อมกล่าวว่า หัวหน้าฝ่ายเทศกิจทำร้ายประชาชน ตนจึงได้บอกเจ้าหน้าที่ว่าอย่าต่อล้อต่อเถียง ให้เดินหนีออกมา และแม้ว่าจะเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งหนึ่งแล้วคนกลุ่มนี้ยังเดินตามมาด่าทอเจ้าหน้าที่ต่อ จึงขอยืนยันว่า ตามที่มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ออกไปว่า รองผู้ว่าฯ ทำร้ายประชาชนนั้น ไม่เป็นความจริง

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ปรากฏ ยังไม่พบภาพที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่กทม. มีการผลักหรือทำให้หญิงท่านนั้นล้มลง และนโยบายของกทม. นั้นจะไม่มีการใช้กำลัง แต่หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งให้ทางกทม.เพื่อพิสูจน์ความจริงได้ และขอยืนยันว่ากทม.ไม่ได้มีประกาศห้ามทำการค้าตามที่หลายคนกล่าว เพราะมีการจัดระเบียบและจัดพื้นที่ให้ค้าขาย ซึ่งผู้ค้าจำนวนมากให้ความร่วมมือแล้ว เหลือเพียงบางส่วนที่ต้องเจรจาต่อไป และขอย้ำตามที่ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ พูดไว้ว่า ทางเท้าไม่ใช่ของใครท่านใดท่านหนึ่ง แต่เป็นทางเดินเท้าของทุก ๆ คน การจัดระเบียบเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสูดแก่ทุก ๆ คน จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องดำเนินการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]