fbpx

เครือข่ายสตรี ตำหนิ รมว.ศธ.ไม่ใส่ใจกรณีครูข่มขืน นร.บ่อยครั้ง

สำนักข่าวไทย 26 ต.ค.- เครือข่ายสตรี ตำหนิ รมว.ศธ.ไม่ใส่ใจ เพิกเฉย จากกรณีเหตุครูข่มขืนนักเรียนบ่อยครั้ง ย้ำร้องเรียนจนเบื่อ ไม่ทำอะไรเลย จี้เอาผิดเด็ดขาด เลิกช่วยเหลือครูด้วยกัน หยุดอ้างว่าเด็กเข้าหา เพราะจรรยาบรรณต้องค้ำคอ

นายจเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวถึงกรณีครูพละข่มขืนลูกศิษย์ ว่าที่ผ่านมาทางมูลนิธิเคยร้องเรียน ทำหนังสือถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บ่อยครั้งจากกรณีเหตุข่มขืนในโรงเรียน แต่กลับถูกเพิกเฉย ทางเครือข่ายเรียนร้องกันจนเบื่อ เพราะรัฐมนตรีไม่ตอบสนองและนิ่งเฉย จึงขอตำหนิการกระทำของรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ เพราะปัจจุบันจะเห็นว่ามีข่าวครูข่มขืนศิษย์บ่อยครั้ง เรียกว่า เกือบรายวัน ทั้งที่เดิมอดีตรัฐมนตรีศึกษาคนเก่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ยังใส่ใจกว่า มีการจัดตั้งศูนย์และสายด่วนร้องเรียน การคุกคามทางเพศในโรงเรียน แต่ น.ส.ตรีนุช กลับแสดงทีท่านิ่งเฉย และบางครั้งเหมือนปกป้องครูด้วยซ้ำ


นายจเด็จ กล่าวว่า พฤติกรรมของการคุกคามทางเพศในโรงเรียน มักเกิดขึ้นจากครูที่มีอำนาจ ทั้งเรื่องของการออกเกรด และชายเป็นใหญ่ อีกทั้งครูก็จะรู้ความเป็นไปของเด็กนักเรียนว่า คนไหนมีปัญหาในครอบครัว ครูก็จะเข้ามาทำให้เด็กรู้สึกดี จากช่วยเหลือก็เข้าสู่การคุกคาม หรือครูบางคนก็ทำให้เด็กสงสัยว่า ครูชอบเราหรือไม่ และเมื่อมีอะไรกับเด็กท้ายสุดก็จะพูดทำนองว่า เด็กเข้าหาครูเอง ซึ่งตรงนี้ความจริงแล้วครูมีเรื่องของจรรยาบรรณมาเป็นตัวกำหนด จะมาพูดแบบนี้ไม่ได้ว่าเด็กเข้าหา ครูต้องระวังตัวและไม่เข้าไปคุกคามเด็ก และเมื่อมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่ควรเข้าข้างกัน และหากสอบพบว่าครูมีความผิดจริงก็ควรลงโทษผู้บริหารที่เข้าข้างด้วย และต้องเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครู เพื่อให้ครูคนนี้ย้ายไปก่อเรื่องกับคนอื่นต่อ ทั้งนี้กระทรวงศึกษาฯ ควรมีการคัดกรองสกรีนครู ทั้งด้านสภาพจิตใจและพฤติกรรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้อีก. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง