สำนักข่าวไทย 23 ต.ค. – อย.ยันกฎหมาย เภสัชกรประจำร้านขายยา ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ได้แก้กฎหมาย เป็นหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.ยา 2510 ที่ผ่านมาอะลุ่มอล่วย เพราะสัดส่วนเภสัชกร แต่ปัจจุบันไม่ใช่ การมีเภสัชกรประจำร้าน ช่วยให้ผู้บริโภคใช้ยาได้อย่างปลอดภัย พร้อมรับฟังความเห็นต่าง เชื่อทุกคนเข้าใจ เหมือนข้อกฎหมายทั่วไป คลินิกต้องมีหมอ ร้ายขายยาต้องมีเภสัชกร
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ คำสั่งนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุ ได้รับการร้องเรียนจากเภสัชกร ได้รับผลกระทบจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการกำหนดเกี่ยวกับสถานที่ อุปกรณ์ และวิธีปฏิบัติทางเภสัชกรรมชุมชน ในสถานที่ขายยาแผนปัจจุบัน ตามกฎหมายว่าด้วยยา พ.ศ. 2557 ที่กำหนดว่าร้านขายยาจะต้องมีเภสัชกรอยู่ประจำร้าน ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่กฎหมายใหม่ และอยู่ในข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ที่เป็นการกำหนดว่า ในคลินิก ต้องมีหมอ ในร้านขายยาต้องมีเภสัชกร โดยเมื่อ 8 ปีก่อน หรือปี 2556 ได้มีการแจ้งร้านขายยาให้มีการเตรียมตัวในเรื่องนี้แล้ว จากนั้นก็มีการอะลุ่มอล่วยมาโดยตลอด โดยข้อกำหนดของการต่ออายุร้านขายยา ต้องมีเภสัชกรประจำร้าน นอกเหนือจากมาตรฐานอื่นๆ ของร้านขายยา เช่น การจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน การจัดวางร้าน และการเก็บรักษา การทำหน้าที่เภสัชกร ที่กำหนดต้องให้คำแนะนำและอธิบายการใช้ยา ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นกฎหมายเดิม
นพ.สุรโชค กล่าวว่า อย่างไรก็ตามก็คงรับฟังความคิดเห็น ซึ่งเรื่องนี้ อย.ทำมาโดยตลอด การกำหนดให้ร้านขายยา ต้องมีเภสัชกร ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ที่ผ่านมาก็ดำเนินมาด้วยดี โดยส่วนใหญ่มีเภสัชกรประจำร้าน ตามที่ได้แจ้งกับทาง อย. บางร้านมาประจำ 3 ชม. ซึ่งในการตรวจสอบมาตรฐานร้านขายยาก็จะตรวจสอบตามเวลาที่ทางร้านแจ้งว่ามีเภสัชกรประจำอยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราส่วนของเภสัชกรในอดีต ที่อาจผลิตได้ไม่มาก แต่ปัจจุบันสัดส่วนของเภสัชกรก็มากขึ้น เชื่อว่าจะมีการทำความเข้าใจกันอีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย