สธ.แนะผู้ติดยา-สารเสพติด เข้ารับการบำบัดได้ที่สถานบำบัดใกล้บ้าน

กทม. 9 ต.ค.- สธ.ย้ำให้ความสำคัญนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติด ชี้มีการขยายบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แนะผู้ติดยาและสารเสพติดสามารถเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้จากสถานบำบัดใกล้บ้าน


นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากระบบข้อมูลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข มีผู้เข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาลโดยปี 2652 จำนวน 263,834 ราย ปี 2563 จำนวน 222,627 ราย และปี 2564 จำนวน 179,619 ราย มีแนวโน้มลดลงตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นการบำบัดผู้เสพยาบ้า มากกว่า 75% ในทุกปี และยังมีผู้เสพยาเสพติดอีกส่วนหนึ่งอยู่ในการดูแลของกรมควบคุมประพฤติ ซึ่งการดำเนินงานบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด เป็นไปตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ให้ทุกภาคส่วนเร่งขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดด้วยการบำบัดรักษา เปลี่ยนทัศนคติของสังคม สร้างแนวคิดที่ว่า “ผู้เสพคือผู้ป่วยที่ควรเข้าถึงการบำบัด” กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมในการรองรับการบำบัดรักษา มีการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน มีการดูแลช่วยเหลืออย่างรอบด้านและต่อเนื่อง และมีระบบการส่งต่ออย่างไร้รอยต่อ ใช้กลไกบำบัดรักษาแบบสมัครใจเป็นหลักในการบริหารจัดการและแก้ปัญหายาเสพติด โดยขยายการบริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ในรูปแบบการจัดตั้งคลินิก และหอผู้ป่วยในจิตเวชและยาเสพติดในโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต กรมการแพทย์ และโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลชุมชนที่มีความพร้อม เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติด ได้เข้าถึงการบริการอย่างทั่วถึง และเมื่อรับการรักษาแล้ว มีระบบกลไกติดตามเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยกลับไปเสพซ้ำ นอกจากนี้ ยังมีการอบรมเจ้าหน้าที่ในทุกระดับให้ความรู้เรื่องการบำบัดรักษาเสพติด และมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ดูแลติดตาม รวมทั้งมีการให้ชุมชนมีส่วนช่วยในการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถขอคำปรึกษาและรับการบำบัดรักษาได้ที่สถานพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ทั้งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เช่นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป หรือโรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เช่นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลวชิระ โรงพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. วัด และชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้ กรมการแพทย์ โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาค เป็นหน่วยงานที่รักษา บำบัด ฟื้นฟู และถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแก่ทุกภาคส่วน และมีการให้คำปรึกษาผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งระบบ Tele Conference แก่หน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรักษา สำหรับกรณีที่มีความยุ่งยากซับซ้อนในรักษาจะมีระบบส่งต่อไปยัง สบยช.และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาค รวมถึงสถานพยาบาลที่มีศักยภาพมากกว่าทันที อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงครอบครัวและชุมชน ให้มีการนำส่งผู้เสพยาเสพติด ให้เข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องการเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา

นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการบำบัดรักษาแบบหลัก ๆ มี 2 รูปแบบ คือ แบบผู้ป่วยนอก รักษาในรูปแบบกาย จิต สังคมบำบัดแบบไป-กลับ และแบบผู้ป่วยใน เน้นกระบวนการบำบัดให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็ง มีครอบครัวเป็นหลักสำคัญ ซึ่งในปัจจุบัน ยังเพิ่มการรักษาแบบ Hospital care @ Home เข้ามาโดยใช้บ้านเป็นเสมือนหอผู้ป่วย ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ ติดต่อสื่อสารผ่านทาง DMS Telemed และ Application ห่วงใย ผู้ป่วยต้องไม่มีอาการทางยาเสพติดและไม่มีโรคแทรกซ้อนทางกายและจิตเวชที่รุนแรง ทางครอบครัวหรือญาติมีความพร้อมในการดูแล สามารถใช้ Smart phone, Computer หรือ Tablet ได้ ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบจะได้รับการดูแลจากแพทย์และทีมสหวิชาชีพ ให้การบำบัดรักษาอาการขาดยา รวมถึงภาวะแทรกซ้อนทางกาย ทางจิต โดยการให้ยาจนอาการดีขึ้นและให้การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย จิตใจ ซึ่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560-2564 ทางสบยช.มีผู้มาเข้ารับบริการบำบัดรักษายาเสพติด 26,755 ราย ส่วนใหญ่ใช้ยาเสพติดกลุ่มสารกระตุ้นประสาท ซึ่งมีก่อให้เกิดโรคทางจิตประสาทและพฤติกรรมเสี่ยงก่อความรุนแรง สอดคล้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีการเสนอข่าวสารในปัจจุบัน ทั้งนี้หากประสบปัญหาเกี่ยวกับยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 และสายด่วนเลิกยาเสพติด ผ่านศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือผ่านช่องทาง Line Official ‘ห่วงใย’ เพื่อประเมินตัวเองเกี่ยวกับการติดสารเสพติดและการให้คำปรึกษา และสามารถเข้าบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) โรงพยาบาลธัญารักษ์ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม