กทม. 21 ก.ย. – กรมบังคับคดีร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ เร่งหาทางช่วยเหลือสาวชัยภูมิ กรณีซื้อที่ดินทับซ้อนที่สาธารณะ
ตามที่มีข่าวสาวชาวชัยภูมิร้องขอความเป็นธรรมกรณีซื้อที่ดินมาจากการขายทอดตลาด แต่มีคนพื้นที่ขัดขวางการรังวัดเขตที่ดินว่ามีพื้นที่สาธารณะทับซ้อนบางส่วน
นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวผู้ร้องเป็นผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดชัยภูมิ เป็นที่ดินว่างเปล่า จำนวน 12 ไร่ 58 ตารางวา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 ราคา 1,850,000 บาท โดยผู้ซื้อได้รับหนังสือโอนสิทธิครอบครองให้ผู้ซื้อทรัพย์รับไปดำเนินการ ต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 สำนักงานบังคับคดีจัดทำบัญชีรับ-จ่ายเงินครั้งที่ 2 และจ่ายเงินส่วนได้ให้คู่ความรับไปเรียบร้อยแล้ว ในสำนวนคดีไม่ปรากฏว่ามีการคัดค้านการโอนสิทธิครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวแต่อย่างใด และต่อมาผู้ซื้อทรัพย์ลงพื้นที่เพื่อไปทำกินในที่ดินดังกล่าว ปรากฏว่ามีคนในพื้นที่ขัดขวางการรังวัดเขตที่ดินว่ามีที่สาธารณะบางส่วนในเนื้อที่ 2 ไร่ 45 ตารางวา เป็นสระน้ำสาธารณะ
ผู้ร้องได้ยื่นฟ้องคนในพื้นที่ต่อมาศาลจังหวัดชัยภูมิ มีคำพิพากษายกฟ้อง โดยรับฟังข้อเท็จจริงว่าที่ดินพิพาทเป็นสระน้ำสาธารณะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในทันทีที่ได้ทราบข่าวกรมบังคับคดีได้มอบหมายให้นายสหภัทร ไชยสง่าศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดชัยภูมิ ร่วมประชุมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ เพื่อร่วมหาทางช่วยเหลือและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และเป็นธรรมต่อผู้ร้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย