กรมบังคับคดี 23 ม.ค. – กรมบังคับคดีเปิดแผนปี 68 ลุยแก้หนี้คนไทยให้ทะลุเป้า หลังไกล่เกลี่ยสำเร็จ 6,879 เรื่อง คิดเป็น 97%
นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี แถลงแนวทางการขับเคลื่อนงานภารกิจกรมบังคับคดี โครงการสำคัญและกิจกรรมที่ดำเนินการในปีงบประมาณ 2568 ระบุว่าจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องเกิดการเลิกจ้างส่งผลต่อปัญหาหนี้สิน ถูกฟ้องร้องเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 มีปริมาณคดีแพ่งและคดีล้มละลายในชั้นบังคับคดี จำนวน 4,171,644 เรื่อง ทุนทรัพย์กว่า 19.109 ล้านล้านบาท จำนวนทุนทรัพย์เมื่อเทียบ GDP จำนวน 18.37 ล้านล้านบาท หนี้ในชั้นบังคับคดีมากกว่าคิดเป็นร้อยละ 4.02
สำหรับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน ช่วงตุลาคม – ธันวาคม 2567มีเรื่องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จำนวน 7,072 เรื่อง ทุนทรัพย์ 3,623 ล้านบาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 6,879 เรื่อง ทุนทรัพย์ 3,173 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 97.27 ของเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการ สามารถลดค่าใช้จ่ายประชาชนได้ประมาณ 112ล้านบาท
นอกจากนี้ได้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)แบ่งเป็น 2 กลุ่มลูกหนี้คือ กลุ่มลูกนี้ที่ชำระหนี้ครบถ้วน และลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีรับ-จ่าย ส่วนใหญ่ลูกหนี้ กยศ. ยังไม่กล้าเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ เพราะกลัวการบังคับคดี จึงคาดหวังว่าในปี 2568 จะมีลูกหนี้ กยศ. ยินยอมรับการปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ในการยืดระยะเวลาชำระหนี้ได้ยาวขึ้น และจ่ายถูกลง โดยข้อมูลลูกหนี้ กยศ. พบว่า มีจำนวน 51,254 คดี แบ่งเป็นงดการบังคับคดี 7,892 คดี และถอนการบังคับคดี/ขาย 14,862 คดี ขณะที่คดีที่มีเงินคืนลูกหนี้ 1,551 คดี จำนวนเงินที่คืนให้ลูกหนี้ 54 ล้านบาท
อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวอีกว่า จะมีการทบทวนปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่..) พ.ศ. ….(กระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) โดยกฎหมายฉบับนี้จะทำให้ลูกหนี้ที่มีลักษณะเป็นกิจการขนาดย่อมสามารถเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้เช่นเดียวกันกับการฟื้นฟูกิจการขนาดใหญ่ โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ช่วงเดือนเมษายน 2568
พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนด้วยนวัตกรรมและดิจิทัล เช่น ปัจจุบันจะใช้ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตน หรือแอบพลิเคชัน ThaiD ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการ LED e-Service ต่าง ๆ ได้ง่าย ปลอดภัย โดยระบบงานที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2568 มี 2 ระบบ ได้แก่ ระบบบัญชีรับจ่ายอัตโนมัติและระบบ e-offering Auction เป็นระบบประมูลขายทอดตลาดทรัพย์ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ และภายในเดือนกันยายน 2568 คาดว่าจะมีระบบงานที่แล้วเสร็จ จำนวน 2 ระบบได้แก่ ระบบการอายัดอัตโนมัติ และระบบวางทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์กรมบังคับคดีให้ดียิ่งขึ้น
นายเสกสรร ยังได้อธิบายเรื่องระบบวางทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ ว่า ยกตัวอย่างกรณีที่ลูกหนี้ หรือผู้เช่า ต้องการจ่ายชำระหนี้ ไม่อยากออกไปจากพื้นที่ แต่เจ้าหนี้ไม่ยอมรับการชำระหนี้ บ่ายเบี่ยง จนเป็นเหตุให้อ้างได้ว่าผิดนัดชำระหนี้ เพราะต้องการให้ย้ายออกสถานเดียวนั้น หากเป็นกรณีที่ลูกหนี้ไม่เคยผิดนัดชำระ หรือไม่เคยผิดสัญญาเลย เช่น มีผู้เช่าแผงตลาดต้องจ่ายค่าเช่า แต่เจ้าของไม่ยอมให้จ่ายเงินโดยง่าย กรมบังคับคดีจึงได้พัฒนาระบบวางทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะช่วยให้ลูกหนี้ไม่ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระ ประหยัดเวลา ให้ลูกหนี้ไม่ต้องเดินทางเข้าไปยังสำนักงานบังคับคดีในพื้นที่
อธิบดีกรมบังคับคดี ยังกล่าวถึงปัญหาที่เป็นข้อพิพาทระหว่างผู้พักอาศัยเก่า (ลูกหนี้) กับผู้ซื้อใหม่ที่อาจทำให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท เป็นอันตรายต่อร่างกาย กรมบังคับคดีจึงต้องขอให้ผู้ซื้อใหม่ดำเนินการตามขั้นตอนบังคับคดี ด้วยการติดต่อเจ้าหน้าที่บังคับคดี เพื่อขอให้ศาลมีการบังคับคดีขับไล่.-119-สำนักข่าวไทย