9 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนแม่สอด-แม่สะเรียง ปิดถนนนาน 1 ชั่วโมง ส่วนถนนแม่สอดมุ่งหน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 2 เกิดดินสไลด์ทับเส้นทางและถนนทรุดเป็นหลุมลึก ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ หลากลงคลองชมพู อ.เนินมะปราง น้ำในคลองสูงกว่าจุดวิกฤติ นายอำเภอเนินมะปรางสั่งอพยพชาวบ้าน 20 ครัวเรือน ไปอยู่ศาลาวัดบ้านชมพู
ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงติดต่อกัน 2 วัน ทั่วพื้นที่ 5 อำเภอติดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่บนไหล่เขาหักโค่นขวางเส้นทางถนนสายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 บ้านกอมะแนะ ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ทำให้เส้นทางทั้งขาขึ้นขาล่องบริเวณดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 สนธิกำลังเร่งแก้ไข ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงเปิดการจราจรได้
ส่วน อ.แม่สอด เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องเช่นกัน เกิดดินสไลด์ปิดทับผิวการจราจร และยังเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่บนถนนสายแม่สอด-สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ทางหลวงแผ่นดิน 130 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 5 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด และยังพบถนนทรุดเป็นหลุมลึกกว่า 1 เมตร มีรอยแยกเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร ขณะที่ไหล่ทางใกล้ทางข้ามสะพานซึ่งมีความสูงกว่า 20 เมตร ดินสไลด์เป็นหลุมลึก กว้างกว่า 20 เมตร กองดินจำนวนมากไหลทับผิวการจราจรด้านล่าง 1 ช่องทาง
แขวงทางหลวงตากที่ 2 อ.แม่สอด ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ส่วนการซ่อมแซมคาดต้องรอฝนหยุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งทีมซ่อมแซมและเครื่องจักรกลหนักเข้าไปประจำจุดเกิดเหตุแล้ว
น้ำป่าหลากลงสู่คลองชมพู ต้องอพยพ 20 หลังคา
ส่วนที่ จ.พิษณุโลก ก็ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักติดต่อกลายวันเช่นกัน น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ หลากลงคลองชมพู อ.เนินมะปราง ปริมาณน้ำในคลองสูงกว่า 7.80 เมตร ซึ่งสูงกว่าจุดวิกฤติ 80 ซม.เครื่องเตือนสัญญาณระดับน้ำที่สะพานชมพูดังเตือนเป็นระยะๆ นายอำเภอเนินมะปรางสั่งอพยพชาวบ้านจำนวน 20 ครัวเรือน ไปอยู่ที่ศาลาวัดบ้านชมพู ตั้งแต่เวลา 03.00 น. จนถึงเช้าวันนี้ระดับน้ำในคลองชมพู ลดเพียง 20 ซม.เท่านั้น คาดมวลน้ำจะหลากลงสู่พื้นที่ต่ำ บ้านปลวกง่าม อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ในช่วงเที่ยงวันนี้
น้ำป่าซัดพนังกั้นน้ำแตก ท่วมนาข้าวกว่า 500 ไร่
ที่ จ.ชัยภูมิ มวลน้ำป่าไหลทะลักลงจากเทือกเขาพังเหย ซัดพนังกันน้ำซึ่งกั้นลำห้วยยาง ในเขต อ.หนองบัวระเหว ขนาดความกว้างกว่า 6 เมตร แตกเสียหายเป็นทางยาว มวลน้ำทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 500 ไร่ มวลน้ำนี้จะไหลลงพื้นที่การเกษตรอีกหลายหมู่บ้าน ก่อนไหลลงแม่น้ำชีและไหลเข้าสู่เขตอำเภอเมืองชัยภูมิ
กอนช. เตือนเฝ้าระวังเขื่อนมีน้ำมาก เสี่ยงล้น 6 แห่ง
ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) แจ้งเตือนเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วลม กิ่วคอหมา น้ำพุง อุบลรัตน์ และป่าสักชลสิทธิ์ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังให้เฝ้าระวังบึงบอระเพ็ดที่มีน้ำในเกณฑ์มากเช่นกัน นอกจากนี้ยังให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินถล่มในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย กาญจนบุรี จันทบุรี และ ตราด
อุตุฯ เตือนประเทศไทยยังมีฝนหนักถึงหนักมากวันนี้
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฉบับที่ 8 ทุกภาคยังมีฝนตกหนัก โดยในช่วงวันที่ 10-15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังเตือนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย วันนี้มีกำลังค่อนข้างแรง ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร. – สำนักข่าวไทย