สาวเอนฯ ร้องอ้างถูก 7 ทรชนรุมโทรมงานวันเกิด 

อุบลราชธานี 10 เม.ย.- สาวเอนเตอร์เทนเมืองอุบล โพสต์ข้อความอ้างถูก 7 ทรชนรุมโทรมงานวันเกิด ตอนนี้เครียดหนัก ซึมเศร้า และถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย


ข้อความจากเฟซบุ๊กของหญิงสาวรายหนึ่งที่รับงานเอนเตอร์เทน เธอโพสต์ข้อความอ้างว่า “เราโดนรุมโทรม 7 คน วนๆ  มีคนในห้องนั้น 10 กว่าคน คนนึงขึ้นค่อมปากล็อกแขน ที่เหลือจับแขนมีคนส่องไฟมีคนถ่าย VDO  มีคนเมายา ทำซ้ำๆ พ่อเราบอกเรา “สมยอม” พอแล้วนะโลกใบนี้ พอแล้ว” ซึ่งหลังจากข้อความนี้พอถูกโพสต์ออกไป ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ และแชร์กันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ที่เป็นผู้เสียหาย พบว่าเธออายุ 30 ปี มีอาชีพเป็นพริตตี้ MC พิธีกร งานอีเว้นท์ ในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนเกิดเหตุในกลุ่มไลน์ของ staff รับจัดงาน Event  มีการลงงานว่าต้องการสาวเอนเตอร์เทน ใส่ชุดบิกินี่ 2 คน เพื่อไปเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานวันเกิด ให้ค่าแรง 3,500 บาท หักค่านายหน้า 300 บาท ตนจึงส่งโปรไฟล์ลงในกลุ่มเพื่อตกลงคอนเฟิร์มงานที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20 มีนาคม ส่วนสถานที่นัดหมาย เป็นร้านอาหารมีการเตรียมงานวันเกิดไว้แล้วและงานเป็นงานใหญ่ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เพราะมีผู้หญิงอยู่หลายคน แต่สุดท้ายความปลอดภัยไม่มีอยู่จริง


เธอยืนยันด้วยว่า ขณะเกิดเหตุเธอรู้สึกเมาหนัก ทำอะไรไม่ถูก ประกอบกับป่วยซึมเศร้าทำให้ตอนนั้นกลัว และทำอะไรไม่ถูก แต่ฝืนพยายามทำหน้าที่ต่อให้จบ และในเหตุการณ์ย้ำว่ามีผู้ชายผลัดเปลี่ยนมาข่มขืนถ่ายวิดีโอรวมแล้ว 7 คนและหลังเกิดเหตุ พยายามติดต่อนางสาวบาสที่เป็นผู้ประสานงาน แจ้งว่าเธอถูกรุมโทรม และยังไม่ได้ค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ นางสาวบาสจึงประสานคนในร้านให้โอนเงิน 3,500 บาทมาให้ในวันรุ่งขึ้น  เธอบอกว่าที่ตอนแรกตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะรับไม่ได้ที่ถูกกระทำ จึงโพสต์ข้อความดังกล่าวไว้ในเฟซบุ๊ก เพื่อว่าหากตายไปทุกคนจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ทั้งนี้ เมื่อมีคนเห็นโพสต์ กลับมีหญิงคนหนึ่งโทรเข้ามาขอให้ลบโพสต์และรับปากว่าจะติดตามบุคคลทั้ง 7 คน มาดำเนินการให้ แต่ผ่านไปถึงวันที่ 30 มีนาคม เรื่องยังไม่คืบ แถมประจําเดือนของเธอ ไม่มาจึงได้ไปซื้อชุดตรวจครรภ์มาตรวจพบว่าขึ้น 2 ขีด ด้วยความตกใจ และกังวล จึงเข้าแจ้งความในวันนั้น (30 มีนาคม) แต่ยังกลัวว่าคดีนี้จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมีผู้ก่อเหตุหลายคน และเวลาผ่านมานาน หลักฐานเริ่มหายไป อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ

ด้านพ่อของผู้เสียหาย ยอมรับว่า สภาพจิตใจของพ่อและลูกย่ำแย่มาก พ่อเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูก ยืนยันว่าไม่ได้พูดว่า ลูกสมยอม แต่ตอนนั้นพ่อเครียด อาจพูดอะไรที่ทำให้ลูกเข้าใจผิด ย้ำว่าเสียใจ และตกใจ 


ขณะที่ตำรวจ ชี้แจงว่าได้รับคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายแล้ว แต่เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน จึงประสานให้พนักงานสอบสวนหญิงเป็นผู้ที่ทำการสอบสวนดำเนินคดี ไม่มีการปัดหรือปฏิเสธรับคดีแต่อย่างใด รวมถึงส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายแล้ว และไม่พบการตั้งครรภ์ และได้เรียกเจ้าของร้านที่ถูกอ้างว่าเป็นจุดเกิดเหตุเข้ามาให้การเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ชาย 7 คนที่ถูกกล่าวอ้างว่ารุมข่มขืน พอทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างติดตามตัวเข้ามาให้การกับพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าจากการตรวจสอบในเฟซบุ๊กของผู้เสียหาย พบการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายหลายโพสต์ ตั้งแต่เกิดเรื่อง และเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าผู้เสียหายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และต้องทานยาคลายเครียดอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งกลาโหมประสานผู้ว่าฯ ช่วยน้ำท่วมเชียงราย

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-นายกฯ สั่งกลาโหม ประสานความร่วมมือ ผู้ว่าฯ จัดกำลังพลและอุปกรณ์ช่วยน้ำท่วมเชียงราย ขอ ประชาชนติดตามข่าวสาร Cell Broadcast ยัน รัฐบาลเตรียมแผนงานไว้แล้ว ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล ระบุเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย ขณะนี้ฝ่ายปกครอง ปภ.เขต/จังหวัด และนายอำเภอได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการขนย้ายสิ่งของสำคัญขึ้นที่สูง อพยพประชาชนไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ ดิฉันได้สั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงกลาโหม ประสานความร่วมมือช่วยเหลือด้านกำลังพลและอุปกรณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็ว ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ปภ. ดูแลจัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดีอี โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินสถานการณ์และแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะผ่านทั้งทาง Cell Broadcast และการแจ้งข่าวโดยตรงจากในพื้นที่ค่ะ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัยและเจ้าหน้าที่ทุกท่านขณะนี้ รัฐบาลจะดูแลทุกชีวิตอย่างดีที่สุดค่ะ และนี่เป็นอีกครั้งที่ยืนยันว่าการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบจะต้องเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งรัฐบาลเตรียมแผนงานไว้แล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

“ภูมิธรรม” บอกไม่ฟัง “ฮุน เซน” วอนคนไทยอย่าให้เขาปั่น

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” บอกไม่ฟัง “ฮุน เซน” ไม่รู้จะฟังทำไม แปลไม่ออก วอนคนไทยอย่าให้เขาปั่น เป็นสงครามข่าวสาร-จิตวิทยา หวังต่างชาติสนใจ เผย กต.ติดตามอยู่ หากกระทบไทย พร้อมเอาผิดตามกฎหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการไลฟ์ของสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ยังไม่ได้ฟังคลิปเสียงของสมเด็จฯ ฮุน เซน และ ตนไม่สนใจฟัง เพราะหลายอย่างก็พูดกลับไปกลับมา เช่น เรื่องปิดด่าน ซึ่งถ้ามีความจริงใจ หรือซื่อตรง กับสิ่งที่ได้กระทำก็คงพูดให้ชัดเจน ก็เห็นว่าท่านก็ว่าของท่านไป ตนก็ฟังไม่ออกด้วย ไม่รู้จะไปฟังทำไม เพราะฟังไม่ออก ส่วนถ้ามีการเปิดคลิปเสียงลับที่อ้างว่ามีหลายเรื่องที่กระทบกับประเทศไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่สนใจเลย เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาล และเราก็ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร สิ่งที่ชัดเจนขณะนี้เขากำลังเล่นสงครามข่าวสารและสงครามจิตวิทยา และสิ่งต่างๆที่เขาทำอยู่เพื่อจะบั่นทอนศักยภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทย ซึ่งถ้ารัฐบาลไทยสั่นคลอนเขาจะได้ประโยชน์สูงสุด นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการและหวังไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินหรือชายแดนต่างๆ ซึ่งเขาจะสามารถดำเนินการได้ ในขณะที่รัฐบาลไทยมีปัญหา จึงอยากขอความวิงวอน เรายืนอยู่บนหลักของเราและดำเนินการต่างๆ ถ้าอยากจะเปิดอะไรออกมาก็เปิด ถ้าอะไรมีปัญหาก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรเลย […]

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]