ชาวสวนแตงโมสุดช้ำน้ำท่วมเสียหายกว่า 800 ไร่

ยะลา 28 ก.พ.-ชาวสวนแตงโม อ.ทุ่งยางแดง สุดช้ำ น้ำท่วมพืชไร่ฉับพลัน เสียหายกว่า 800 ไร่ ส่วนน้ำท่วมยะลา เริ่มคลี่คลาย หลังฟ้าเปิด ชาวบ้าน อ.รามัน เผยระดับน้ำเริ่มลดลง หลังท่วมมาแล้วกว่า 3 วัน


สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดยะลา หลังจังหวัดได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบประสบสาธารณภัย (อุทกภัย) ในพื้นที่จังหวัดยะลา จำนวน 5 อำเภอ 40 ตำบล 158 หมู่บ้าน 1 ชุมชน ซึ่งทุกหน่วยงานสามารถดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ตามอำนาจหน้าที่ ตามประกาศ โดยในวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี เริ่มลดระดับลง แต่ยังคงล้นตลิ่ง โดยต้นน้ำที่ อ.ศรีสาคร และ อ.รือเสาะ ณ ปัจจุบัน ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1-2 เมตร คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใน 1-2 วันนี้

แม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำที่ต้นน้ำ อ.บันนังสตา ณ ปัจจุบันต่ำกว่าตลิ่ง 1.46 เมตร คงเหลือระดับน้ำที่ผ่านเทศบาลนครยะลา สูงกว่าตลิ่ง อยู่ที่ระดับ 60 เซนติเมตร คาดว่า จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้เช่นกัน ส่วนบ้านเรือนของประชาชน ที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำ หลังจากนี้ก็จะเป็นลักษณะน้ำท่วมขังในพื้นที่ ไม่มีอิทธิพลจากลำน้ำสายหลักมาเติม ต้องหามาตรการในการสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ต่อไป


ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ที่นี่น้ำท่วมทุกปี เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ติดกับแม่น้ำสายบุรี ปีนี้หนักกว่าทุกปี น้ำขึ้นเร็วมาก สัญจรลำบาก น้ำเอ่อล้นท่วมถึงถนนที่ใช้สัญจรในหมู่บ้าน วันนี้เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ที่น้ำยังคงท่วมบ้านเรือนอยู่ บรรยากาศในวันนี้ฟ้าเปิด มีแสงแดด ที่ผ่านมาเดินทางเข้าไปในตัวบ้านไม่ได้ น้ำท่วมสูง วันนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ยังทรงตัวอยู่ ซึ่งบ้านที่เห็นนี้เป็นบ้านสามี บ้านพี่สาว และบ้านเครือญาติ ที่ผ่านมาทางหน่วยงานทั้งทางจังหวัด ทางอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามาช่วยเหลือ บริจาคสิ่งของ ถุงยังชีพ น้ำดื่ม และข้าวกล่องช่วยเหลือ คาดว่าอีก 2-3 วัน กว่าน้ำจะลด หากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่

จากคลิปใน TikTok ที่เห็นชาวสวนไร่แตงโม ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ที่นำเรือพายทยอยเก็บแตงโมที่กำลังจมน้ำ ในไร่ของตัวเอง สร้างความสงสารให้กับผู้ที่ได้ดูคลิปนี้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง เป็นพื้นที่ที่ได้ชื่อว่า เป็นแหล่งที่ปลูก แตงโมได้อร่อยที่สุดในจังหวัดปัตตานี และเป็นแหล่งที่มีประชาชนปลูกแตงโมมากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงของเดือน ม.ค.-ก.พ. ของทุกปี จะเป็นช่วงของการเพาะปลูก และเป็นช่วงหลังจากฤดูฝน แต่ปีนี้ กลับมีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ทำให้ไร่แตงโมของชาวบ้านเสียหายทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี พบว่า ชาวบ้านต่างยืนดูไร่แตงโมของตนเองที่มีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และคาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้น และขยายวงกว้างกินพื้นที่มากกว่านี้อีก ทำให้ชาวบ้านได้แต่ทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในปีนี้ ทางชาวสวนหวังว่า การเพาะปลูกในปีนี้ จะสามารถออกผลผลิตในช่วงก่อนเดือนถือศีลอดที่จะมาถึงในเดือนเมษายนนี้ และคาดว่าจะมีรายได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องพบเจอกับสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ทำให้ผลผลิตเสียหายทั้งหมด


ด้านนายอานัส สือแมง ชาวสวนไร่แตงโม บอกว่า ตอนนี้น้ำมาแรง และเร็วมาก จากระดับน้ำหัวเข่า ถึงระดับเอวใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับต้นแตงโม เพราะจะเน่าทั้งหมด ขณะนี้ไร่ของตนเองถูกน้ำท่วมไปแล้ว 9 ไร่ ตอนนี้ได้แต่ทำใจ ทำอะไรไม่ได้ นอกจากแค่เก็บอุปกรณ์ทำเกษตร เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

ด้านนายตอเยะ เจะหนะ กำนันตำบลตะโละแมะนา บอกว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี น้ำไม่เคยท่วมในพื้นที่ตรงนี้ แต่ปีนี้เกิดน้ำท่วมขึ้น ส่งผลกระทบให้กับชาวบ้านที่เพาะปลูกแตงโม แตงกวา และพริกต่างๆ ประมาณ 800 ไร่ และขณะนี้เสียหายทั้งหมด ค่าเสียหายประมาณเกือบ 1 ล้านบาท โดยมวลน้ำมาจาก อ.รามัน จ.ยะลา และ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ไหลรวมเข้ามาในพื้นที่ เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ราบและเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เป็นที่รองรับน้ำ แต่เดือนกุมภาพันธ์ที่นี่ไม่เคยท่วม ตนอายุ 50 ปีแล้ว ยังไม่เคยเจอ เพิ่งจะมาเจอน้ำท่วมในปีนี้

ส่วนที่จังหวัดพัทลุง หลังฝนตกหนักติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง ทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพัทลุง สรุปสถานการณ์น้ำท่วม 6 อำเภอ คือ อำเภอควนขนุน อำเภอกงหรา อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน อำเภอเมือง และอำเภอปากพะยูน รวม 28 ตำบล123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 576 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบมากที่สุด อำเภอควนขนุน จำนวน 11 ตำบล 33 หมู่บ้าน 371 ครัวเรือน

ที่ราบลุ่มริมทะเลสาบ 2 อำเภอ คือ อำเภอเขาชัยสน ตำบลเขาชัยสน หมู่ที่ 1 ประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อนจำนวน 50 ครัวเรือน และอำเภอควนขนุน ตำบลทะเลน้อย หมู่ที่ 7 ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 50 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่นาข้าวที่กำลังสุกรอการเก็บเกี่ยวจำนวนหลายร้อยไร่ยังคงจมน้ำ

สถานการณ์อุทกภัย คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จำนวน 4 อำเภอ 26 ตำบล 121 หมู่บ้าน 476 ครัวเรือน เหลือพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ราบลุ่มพื้นที่ทางการเกษตร จำนวน 2 อำเภอ 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน 100 ครัวเรือน

นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ลงพื้นที่สำรวจ ติดตาม และประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ มอบถุงยังชีพและเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และได้สำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบพืชทางเกษตรได้รับความเสียหาย นาข้าวที่กำลังสุกรอการเกี่ยว ซึ่งพบว่า ยังจมน้ำอยู่เป็นจำนวนหลายพันไร่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย