ชาวสุพรรณ เตรียมจัดงานศพพ่อไวพจน์ ที่วัดวังน้ำเย็น

สุพรรณบุรี 13 ม.ค.- ที่วัดวังน้ำเย็น ต.วังน้ำเย็น อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี  ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของ “ไวพจน์  เพชรสุพรรณ” ที่จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 ล่าสุดทางครอบครัวได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดงานศพ โดยจะสวดอภิธรรม 9 วัน เก็บร่างไว้ 100  วัน เพื่อรอหมายกำหนดการพระราชทานเพลิงศพ


ที่วัดวังน้ำเย็น ต.วังน้ำเย็น อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี  ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดไวพจน์  เพชรสุพรรณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง  ชาวสุพรรณบุรี  ที่เสียชีวิตลงท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและแฟนเพลง ล่าสุดที่วัดวังน้ำเย็น ครอบครัว ได้จัดเตรียมสถานที่ โดยจะตั้งเต็นท์ โดมขนาดใหญ่ ที่บริเวณสนาม ในที่โล่งแจ้ง ของโรงเรียนวัดวังน้ำเย็น  ซึ่งพระจารึก สุทธิจาโค พระลูกวัดวังน้ำเย็น กล่าวว่า  ชาวบ้านวังน้ำเย็น ก็รู้สึกเสียใจกับการจากไปของ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ  ซึ่งเป็นเหมือนผู้นำ เชิญชวนชาวบ้านมาร่วมทำบุญ อุปถัมภ์วัดวังน้ำเย็นตลอดมา  ทั้งร่วมสร้างโบสถ์ วิหาร  บูรณะปฏิสังขรณ์  ตลอดจนเป็นเจ้าภาพทำบุญทอดผ้าทอดกฐินให้วัดทุกปี  โดยงานสวดอภิธรรมจะจัดที่นี่เป็นเวลา 9 วัน  และ รดน้ำศพในวันพรุ่งนี้  ที่วัดวังน้ำเย็น วัดบ้านเกิดของไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งวัดได้อำนวยความสะดวกร่วม จัดสถานที่ให้อย่างเต็มที่


ขณะที่ นางสมคิด พลอยสุขใส  แฟนเพลงไวพจน์ชาววังน้ำเย็น ก็บอกว่าพอทราบข่าวตกใจกันมาก  ไม่คิดว่าแกจะมาจากไปไวขนาดนี้  แกเป็นคนดี อัธยาศัยดี  รักชาวบ้าน ผูกพันกับคนวังน้ำเย็น มีงานบวชในหมู่บ้าน  แกก็ไปแหล่ทำขวัญให้  จนเป็นที่รักของชาวบ้านที่นี่ พอแกไม่อยู่ก็ใจหาย  เพราะติดตามผลงานมานานมาก

ด้านนายคชา ลอพาณิช กำนันตำบลวังน้ำเย็นเผยว่า รู้สึกตกใจและเสียใจมากที่ไวพจน์จากไป  ทางชาวบ้านวังน้ำเย็นก็เสียใจ  เพราะไวพจน์เป็นคนดีมีน้ำใจ เป็นนักพัฒนาช่วยเหลือทุกเรื่อง สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือช่วยกันจัดสถานที่เตรียมการงานศพ และเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของไวพจน์  

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพพรุ่งนี้  สวดพระอภิธรรม 14-22 ม.ค.


สำหรับกำหนดการ วันศุกร์ที่ 14 มกราคม หรือวันพรุ่งนี้  จะเคลื่อนศพจากโรงพยาบาล ไปวัดวังน้ำเย็น บ้านมะขามล้ม ต.วังน้ำเย็น อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี    เวลา 15.00 น.รดน้ำศพ เวลา 17.00 น. พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี  เป็นผู้แทนพระองค์วางพวงมาลาหน้าหีบศพ  หลังจากนั้นสวดพระอภิธรรม 9 คืน เก็บร่างไว้ 100  วัน เพื่อรอหมายกำหนดการพระราชทานเพลิงศพ

ด้านนายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) แจ้งการบำเพ็ญกุศลราชาเพลงแหล่ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ปี 2540 ที่ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมอายุ 79 ปี  โดยขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันศุกร์ที่ 14 มกราคม นี้ และกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ ระหว่างวันที่ 14 – 22 มกราคม 2565 ที่ วัดวังน้ำเย็น ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี และสวธ.จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะได้ช่วยเหลือด้านต่างๆ มอบเงินช่วยเหลือเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 20,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 150,000 บาท 

ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ศิลปินแห่งชาติราชาเพลงแหล่

สำหรับประวัติโดยสังเขป นายไวพจน์ สกุลนี เกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2485 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงในนาม ไวพจน์ เพชรสุพรรณ โดยเริ่มหัดร้องเพลงอีแซวกับมารดามาตั้งแต่อายุ 12 ปี จากนั้นฝึกหัดร้องลิเกกับคณะลิเกประทีปสามารถร้องเพลงแหล่ได้เป็นอย่างดีเมื่ออายุ 14 ปี ด้วยพรสวรรค์ของน้ำเสียงและการแหล่ที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวทำให้ก้าวเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งด้วยการใช้พื้นฐานเดิมจากเพลงอีแซว เพลงแหล่ และลิเก มาปรับประยุกต์ใช้ในการขับร้องเพลงจนเป็นที่จับใจผู้ฟังเพลงทั่วประเทศต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงกว่า 2,000 เพลง

และเป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีพลังเสียงก้องกังวาน มีผลงานโดดเด่นจนได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาเพลงแหล่จากเมืองสุพรรณที่มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงเพลงแหล่มากที่สุดในประเทศไทย” ครูไวพจน์ยังมีความสามารถเฉพาะตัวแต่งเพลงให้ตนเองและลูกศิษย์ขับร้องจนมีชื่อเสียงจำนวนมาก และได้รับรางวัลนักร้องดีเด่นหลายรางวัล ครูไวพจน์ นับเป็นบุคคลแบบอย่างในการสร้างผลงานที่แฝงแง่คิดและหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการบรรพชาและการอุปสมบทแทนคุณบิดา มารดา 

ล่าสุด ทางครอบครัวครูไวพจน์ จะจัดสร้างอนุสรณ์สถานเป็นตำนานให้ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ศิลปินแห่งชาติ เพื่อรำลึกถึงไว้ 2 แห่ง  คือ แห่งแรกที่วัดวังน้ำเย็น แห่งที่ 2 ที่บ้านทรงไทย หลังเก่า ของไวพจน์ เพชรสุพรรณ ซึ่งห่างจากวัดประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อให้อนุชนรุ่นลูก รุ่นหลาน แฟนเพลง ได้เรียนรู้และระลึกถึง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]