สมุทรปราการ 10 ม.ค. – สภ.สำโรงเหนือ ชี้แจงกรณีตำรวจตรวจค้นชายต้องสงสัยแล้วพบวัตถุคล้ายไอซ์ สุดท้ายกลายเป็น “การบูร” แล้วมีการนำเสนอกรณีดังกล่าวผ่านสื่อช่องหนึ่ง ล่าสุดมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยในรายงานระบุวันเกิดเหตุ คือ 7 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 23.25 น. บริเวณจุดตรวจ-จุดสกัด ถ.สุขุมวิท (ขาออก) ปากซอยสุขุมวิท 109 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มี ร.ต.อ.เอกนรินทร์ รุ่งโรจน์ และ ร.ต.อ.สุรยุทธ พึ่งคำ รองสารวัตรปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกำลังและอาสาสมัครตำรวจประชาชน พบชายขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีบรอนซ์ ทะเบียน 7 กถ 7374 กรุงเทพมหานคร ผ่านมาแล้วหยุดก่อนถึงจุดตรวจฯ ลักษณะมีพิรุธ เพราะไม่ยอมขับเข้ามายังด่าน จึงได้ขอตรวจค้น พบวัตถุมีลักษณะเป็นผลึกเกล็ดสีขาวขุ่น คล้ายไอซ์ อยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดเปิด-ปิด จำนวน 1 ถุง อยู่ในลิ้นชักเก็บของฝั่งข้างคนขับ ชุดตรวจเชื่อว่าเป็นไอซ์ ประกอบกับชายคนดังกล่าวมีลักษณะร้อนรนต้องสงสัย ปรากฏตามคลิปวิดีโอของสายตรวจ จึงขอตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ผลตรวจเบื้องต้นครั้งแรกพบสารเสพติด จึงควบคุมตัวโดยใช้เครื่องพันธนาการ
ระหว่างนั้นชายคนดังกล่าวได้โทรศัพท์ติดต่อมารดา และมีการซักถามกัน โดยยืนยันว่า ถุงดังกล่าวเป็นการบูร ซึ่งเก็บไว้ในรถ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบโดยเปิดถุงแล้วดม ทำให้รู้ว่าเป็น “การบูร” และได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติด จึงปล่อยตัว และได้ชี้แจงทำความเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ จนเข้าใจกันอย่างดี
ต่อมาชายคนดังกล่าว พร้อมมารดา ได้มาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่า ถูกเจ้าหน้าที่ล็อกข้อมือ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนได้ให้คำแนะนำว่า อาจเกิดจากความเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ และจะเรียกตำรวจชุดดังกล่าวมาชี้แจง แต่ทั้งสองไม่ประสงค์พูดคุย และแสดงท่าทางไม่พอใจ จึงให้ลงบันทึกประจำวันตามที่ผู้แจ้งประสงค์ แต่ผู้แจ้งออกมาจากห้องรับแจ้งความ โดยไม่มีการลงบันทึกประจำวัน ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจอีกครั้ง และมีการนำเสนอข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ผ่านรายการข่าวภาคเที่ยงช่องหนึ่ง
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สภ.สำโรงเหนือ ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเรียกตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมหลักฐานอื่นๆ เช่น ภาพถ่ายจากกล้องวิดีโอของตำรวจ ขณะตั้งจุดตรวจและตรวจค้น ตลอดจนภาพจากกล้องวิดีโอที่ทำงานของ สภ.สำโรงเหนือ โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย. – สำนักข่าวไทย