เด้ง 4 ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ เซ่นปมจับยาเสพติดเป็น “การบูร”

สมุทรปราการ 11 ม.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ สั่งเด้ง 4 ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ กรณีตั้งด่านตรวจค้นรถพบผงการบูร อ้างเป็นไอซ์ และจับผู้เสียหายใส่กุญแจมือ


จากกรณีที่มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนนำคลิปการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า น้องชายถูกตำรวจเรียกตรวจค้น ขณะขับรถผ่านด่านตรวจ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 109 ถ.สุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบวัตถุมีลักษณะเป็นผลึกเกล็ดสีขาวขุ่น (คล้ายยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดเปิด-ปิด จำนวน 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักเก็บของ ฝั่งข้างคนขับรถ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจเชื่อว่าเป็นยาไอซ์ กระทั่งถูกจับใส่กุญแจมือ และยังถูกคุมตัวนานกว่า 3 ชั่วโมง ต่อมาจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นการบูร จึงทำให้ทางญาติไม่พอใจข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.25 น. วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคาดว่าต้องขอเวลาให้คณะกรรมการได้ทำงานสักระยะหนึ่ง หากว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการลงทัณฑ์ตามระเบียบ ต่อมา พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เซ็นคำสั่งให้


  1. ร.ต.อ.เอกนรินทร์ รุ่งโรจน์ รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ
  2. ร.ต.อ.สุรยุทธ พึ่งคำ รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ
  3. ส.ต.อ.กรวิทย์ วิศรีสิทธิ์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ
  4. ส.ต.ต.สันติ โยธมาศ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ

ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่เดิม ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.65 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ส่วนกรณีเรื่องการตรวจสอบสารเสพติดในปัสสาวะพบหรือไม่พบนั้น ต้องรอการรายงานของคณะกรรมการก่อน แต่ยังยืนยันว่า ถ้าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่จริง ก็จะต้องมีการลงโทษ

ด้านผู้เสียหายขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ หากใครเคยถูกกระทำในลักษณะนี้ สามารถเข้ามาร้องเรียนแจ้งความร้องทุกข์ได้ หากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินคดีอาญาทุกราย ไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นใครก็แล้วแต่ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ ตนเองยังได้ออกคำสั่งที่ 3/2565 ยกเลิกคำสั่งปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลืองานของแต่ละสายงานทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.65 เป็นต้นไป และให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด


สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค.65 เวลาประมาณ 23.25 น. ขณะที่ ร.ต.อ.เอกนรินทร์ กับพวก กำลังตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด อยู่ที่บริเวณ ถ.สุขุมวิท (ขาออก) ปากซอยสุขุมวิท 109 ต.สำโรงเหนือ พบชายคนดังกล่าวขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีบรอนซ์ ทะเบียน 7 กถ 7374 กรุงเทพมหานคร ผ่านมาหยุดที่บริเวณก่อนถึงจุดตรวจฯ ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย ไม่ยอมขับเข้ามาในด่าน จึงได้เข้าขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบวัตถุมีลักษณะเป็นผลึกเกล็ดสีขาวขุ่น (คล้ายยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดเปิด-ปิด จำนวน 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักเก็บของ ฝั่งข้างคนขับรถ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจเชื่อว่าเป็นยาไอซ์ ประกอบกับชายคนดังกล่าวมีลักษณะร้อนรน เป็นพิรุธต้องสงสัย จึงได้ขอทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายทางปัสสาวะ ผลการตรวจเบื้องต้นครั้งแรกพบสารเสพติด จึงมีการควบคุมตัวโดยใช้เครื่องพันธนาการ ระหว่างนั้นชายดังกล่าวได้โทรศัพท์ติดต่อญาติ ซึ่งเป็นมารดา เมื่อมารดามาถึงได้มีการซักถาม ยืนยันว่าถุงดังกล่าวเป็นการบูร ซึ่งตนเก็บไว้ในรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบโดยวิธีเปิดถุงแล้วดม ทำให้ทราบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นการบูรจริง นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายทางปัสสาวะอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติด จึงได้ปล่อยตัวชายคนดังกล่าว และได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเข้าใจกันดีแล้ว

ต่อมาชายคนดังกล่าวพร้อมมารดาได้เดินทางมาพบ ร.ต.อ.อนุพันธ์ พนักงานสอบสวน ที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่า ถูกเจ้าหน้าที่ล็อกข้อมือ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ร.ต.อ.อนุพันธ์ จึงได้ให้คำแนะนำว่า อาจเกิดจากความเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ และได้เรียกตำรวจชุดดังกล่าวมาชี้แจง แต่ผู้เสียหายไม่ประสงค์พูดคุยและแสดงท่าทางไม่พอใจ ร.ต.อ.อนุพันธ์ จึงให้ลงบันทึกประจำวันตามที่ผู้แจ้งประสงค์ แต่ผู้แจ้งได้ออกมาจากห้องรับแจ้งความ โดยไม่มีการลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด ต่อมาวันนี้ได้มีการนำเสนอข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ผ่านรายการข่าวช่องหนึ่ง จนกลายเป็นข่าวขึ้นมา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]