สมุทรปราการ 11 ม.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ สั่งเด้ง 4 ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ กรณีตั้งด่านตรวจค้นรถพบผงการบูร อ้างเป็นไอซ์ และจับผู้เสียหายใส่กุญแจมือ
จากกรณีที่มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนนำคลิปการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า น้องชายถูกตำรวจเรียกตรวจค้น ขณะขับรถผ่านด่านตรวจ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 109 ถ.สุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบวัตถุมีลักษณะเป็นผลึกเกล็ดสีขาวขุ่น (คล้ายยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดเปิด-ปิด จำนวน 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักเก็บของ ฝั่งข้างคนขับรถ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจเชื่อว่าเป็นยาไอซ์ กระทั่งถูกจับใส่กุญแจมือ และยังถูกคุมตัวนานกว่า 3 ชั่วโมง ต่อมาจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นการบูร จึงทำให้ทางญาติไม่พอใจข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.25 น. วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคาดว่าต้องขอเวลาให้คณะกรรมการได้ทำงานสักระยะหนึ่ง หากว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีการลงทัณฑ์ตามระเบียบ ต่อมา พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้เซ็นคำสั่งให้
- ร.ต.อ.เอกนรินทร์ รุ่งโรจน์ รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ
- ร.ต.อ.สุรยุทธ พึ่งคำ รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ
- ส.ต.อ.กรวิทย์ วิศรีสิทธิ์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ
- ส.ต.ต.สันติ โยธมาศ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ
ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งและหน้าที่เดิม ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.65 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ส่วนกรณีเรื่องการตรวจสอบสารเสพติดในปัสสาวะพบหรือไม่พบนั้น ต้องรอการรายงานของคณะกรรมการก่อน แต่ยังยืนยันว่า ถ้าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่จริง ก็จะต้องมีการลงโทษ
ด้านผู้เสียหายขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ หากใครเคยถูกกระทำในลักษณะนี้ สามารถเข้ามาร้องเรียนแจ้งความร้องทุกข์ได้ หากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินคดีอาญาทุกราย ไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นใครก็แล้วแต่ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ ตนเองยังได้ออกคำสั่งที่ 3/2565 ยกเลิกคำสั่งปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลืองานของแต่ละสายงานทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.65 เป็นต้นไป และให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค.65 เวลาประมาณ 23.25 น. ขณะที่ ร.ต.อ.เอกนรินทร์ กับพวก กำลังตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด อยู่ที่บริเวณ ถ.สุขุมวิท (ขาออก) ปากซอยสุขุมวิท 109 ต.สำโรงเหนือ พบชายคนดังกล่าวขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีบรอนซ์ ทะเบียน 7 กถ 7374 กรุงเทพมหานคร ผ่านมาหยุดที่บริเวณก่อนถึงจุดตรวจฯ ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย ไม่ยอมขับเข้ามาในด่าน จึงได้เข้าขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบวัตถุมีลักษณะเป็นผลึกเกล็ดสีขาวขุ่น (คล้ายยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดเปิด-ปิด จำนวน 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักเก็บของ ฝั่งข้างคนขับรถ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจเชื่อว่าเป็นยาไอซ์ ประกอบกับชายคนดังกล่าวมีลักษณะร้อนรน เป็นพิรุธต้องสงสัย จึงได้ขอทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายทางปัสสาวะ ผลการตรวจเบื้องต้นครั้งแรกพบสารเสพติด จึงมีการควบคุมตัวโดยใช้เครื่องพันธนาการ ระหว่างนั้นชายดังกล่าวได้โทรศัพท์ติดต่อญาติ ซึ่งเป็นมารดา เมื่อมารดามาถึงได้มีการซักถาม ยืนยันว่าถุงดังกล่าวเป็นการบูร ซึ่งตนเก็บไว้ในรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบโดยวิธีเปิดถุงแล้วดม ทำให้ทราบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นการบูรจริง นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายทางปัสสาวะอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติด จึงได้ปล่อยตัวชายคนดังกล่าว และได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเข้าใจกันดีแล้ว
ต่อมาชายคนดังกล่าวพร้อมมารดาได้เดินทางมาพบ ร.ต.อ.อนุพันธ์ พนักงานสอบสวน ที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่า ถูกเจ้าหน้าที่ล็อกข้อมือ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ร.ต.อ.อนุพันธ์ จึงได้ให้คำแนะนำว่า อาจเกิดจากความเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ และได้เรียกตำรวจชุดดังกล่าวมาชี้แจง แต่ผู้เสียหายไม่ประสงค์พูดคุยและแสดงท่าทางไม่พอใจ ร.ต.อ.อนุพันธ์ จึงให้ลงบันทึกประจำวันตามที่ผู้แจ้งประสงค์ แต่ผู้แจ้งได้ออกมาจากห้องรับแจ้งความ โดยไม่มีการลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด ต่อมาวันนี้ได้มีการนำเสนอข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ผ่านรายการข่าวช่องหนึ่ง จนกลายเป็นข่าวขึ้นมา. – สำนักข่าวไทย