ประชาชนแห่กลับปีใหม่ สายหลักติดหนึบ

สำนักข่าวไทย 30 ธ.ค.-ประชาชนแห่เดินทางกลับภูมิลำเนา ส่งผลให้ทุกเส้นทางสายหลัก รถติดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสายเอเชียใช้ความเร็วได้เพียง 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเต็มรองรับผู้โดยสารสูงสุด 100,000 คนต่อวัน ขณะที่ บขส.คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารมากที่สุด 80,000 คน


สภาพการจราจรบนถนนทางหลวงหมายเลข 32 หรือถนนสายเอเชียเมื่อเช้าที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นจนเริ่มหนาแน่นในทุกช่องทาง รถยนต์ใช้ความเร็วได้ประมาณ 20-40 กม.ต่อชั่วโมงและติดสะสมเป็นบางช่วงโดยจากการตรวจสอบพบว่า รถติดขัดสะสมยาวนับสิบ กม.ตั้งแต่ กม.ที่ 53 สะพานบางแก้ว ต.ตลาดกรวด อ.เมือง จ.อ่างทอง ไปจนถึง กม.ที่ 63 เนื่องจากมีอุบัติเหตุรถชนท้ายกันหลายจุดโดยเฉพาะบริเวณจุดที่มีการก่อสร้างทางกลับรถใน กม.ที่ 62+700 พื้นที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ่างทองต้องแนะนำให้ประชาชนที่จะเดินทางขึ้นภาคเหนือในช่วงเย็นและช่วงค่ำวันนี้ หลีกเลี่ยงการใช้ถนนสายเอเชียให้ไปใช้ถนนสาย 33 อ่างทอง-สุพรรณบุรี ที่แยกป่าโมกมุ่งหน้าเข้าเลี่ยงเมืองสุพรรณบุรี เพื่อเข้าสู่จังหวัดชัยนาท และไปบรรจบกับถนนสายเอเชียอีกครั้ง หรือใช้ถนนสาย 309 อ่างทอง-สิงห์บุรี สายเก่า ผ่านจังหวัดอ่างทอง เข้าสู่จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดชัยนาท จะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น

แห่กลับอีสานถนนมิตรภาพรถติดหนัก จ.นครราชสีมา


ที่ถนนมิตรภาพ เขตตัวเมืองโคราช  สภาพการจราจรเป็นไปอย่างแออัดมีรถติดสะสมยาวกว่า 3 กิโลเมตร ไปจนถึงหน้าโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นจุดคอขวดคอสะพาน มีรถติดยาวเหยียด เคลื่อนตัวได้ช้า สลับกับหยุดนิ่ง ทำให้ผู้ใช้เส้นทางต้องค่อยๆ ขยับรถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10 นาทีจึงจะผ่านจุดนี้ไปได้

หลังเลี้ยวซ้ายไปถึงเส้นทางถนนบายพาสต์เลี่ยงเมือง จะเจอกับจุดเสี่ยงรถติดบริเวณทางลงถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นจุดรวมรถที่มาจากถนน 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี ไหลมาบรรจบกัน ก่อนมุ่งหน้าสู่แยกจอหอ และเข้าเส้นทางถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าสู่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครราชสีมา มีการปิดจุดกลับรถเสี่ยงอันตรายเป็นระยะๆ

รฟท.จัดเต็มรองรับผู้โดยสารสูงสุด 100,000 คนต่อวัน


นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผอ.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟฯ จัดเต็ม พ่วงตู้โดยสารจนเต็มหน่วยลากจูง มีขบวนรถโดยสารให้บริการรวม 176 ขบวนต่อวัน และจะพิจารณาเพิ่มขบวนรถพิเศษรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยจะพิจารณาจากสถานการณ์ในแต่ละวัน ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 30 ธันวาคม 2564 – 5 มกราคม 2565 สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 100,000 คนต่อวัน พร้อมแจ้งย้ำถึงผู้โดยสาร ยังให้บริการสถานีต้นทางและปลายทางที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) รวมถึงเปิดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีบางเขน สถานีหลักสี่ และสถานีดอนเมืองได้ตามเดิม ตลอดจนเข้มงวดมาตรการทางสาธารณสุข ในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  

บขส.คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารมากที่สุด 80,000 คน

ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เผยข้อมูลการเดินทางในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประจำปี 2565 ว่า เมื่อวานนี้ (29 ธ.ค.64) บขส. ได้จัดรถโดยสาร (รถ บขส. ,รถร่วม , รถตู้) ให้บริการผู้โดยสาร ในเที่ยวขาไป-ขากลับ จำนวน 5,760 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ จำนวน 66,973 คน โดยแบ่งเป็นการเดินทางในเที่ยวขาไป จำนวน  3,026 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 37,608 คน ส่วนเที่ยวกลับ จำนวน 2,734 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ จำนวน 29,365 คน ขณะที่วันนี้ (30 ธ.ค.64) คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 80,000 คน เป็นการเดินทางในเที่ยวขาไป ประมาณ 50,000 คน และเที่ยวขากลับประมาณ 30,000 คน

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่าขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ทั้ง 5 แห่ง และขอให้ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น โดย บขส.ได้ตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียน และแนะนำประชาสัมพันธ์เรื่องการเดินทาง ณ บริเวณประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 และชั้น 3 สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) และที่หน่วยประชาสัมพันธ์ของสถานีขนส่งฯ ทุกแห่ง

คาดถนนเพชรเกษมปริมาณรถมากช่วงบ่ายนี้

ส่วนที่ ถนนเพชรเกษม กรมทางหลวงประเมินการจราจร เช้านี้ยังถือว่าไหลลื่น มีชะลอตัวบ้าง บนถนนสาย 35 ดาวคะนอง-วังมะนาว โดยเฉพาะช่วงสมุทรสาคร  คาดว่าปริมาณรถจะสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยกรมทางหลวงตรวจวัดการจราจร บนถนนเพชรเกษมในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติประมาณ 10 % ส่วนถนนสายอื่นๆ เช่นถนนมิตรภาพ เพิ่มขึ้น 64 %  

ประกาศกระทรวงคมนาคม 8 ข้อ

กระทรวงคมนาคม ประกาศเรื่องแนวทางปฏิบัติในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สำหรับระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ จำนวน 8 ข้อ เช่นให้ทำความสะอาดรถ อาคารสำนักงานทุก 1-2 ชั่วโมง จัดให้มีเจล แอลกอฮอล์ อย่างเพียงพอ ให้ทำความสะอาดรถทุกรอบ เดินทางระยะไกลต้องพักรถทุก 2-3 ชั่วโมง งดบริการอาหารบนรถ พนักงานและผู้โดยสารต้องฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม พนักงานและผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในการเดินทาง และข้อที่ 8 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางนานเกิน 4 ชั่วโมงให้มีการการตรวจเอทีเค ผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทุกคน

อุบัติเหตุทางถนนวันแรก 29 ธ.ค.เสียชีวิต 39 ราย

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 362 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 362 คน 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.80 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.30.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]