ขอนแก่น 22 พ.ย. – ตำรวจปูพรมล่าคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืน Blank Gun จี้ชิงทองน้ำหนัก 24 บาท กลางห้างดังเมืองขอนแก่น คาดยังกบดานในพื้นที่ และก่อเหตุคนเดียว ยังไม่พบยานพาหนะ
ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณตลาดรถไฟขอนแก่น ถนนดรุณสำราญ บันทึกภาพคนร้ายวิ่งผ่านไปทางสถานีรถไฟขอนแก่น ช่วงเวลา 19.28 น. ซึ่งคนร้ายหอบทองคำรูปพรรณวิ่งผ่านกล้อง หลังก่อเหตุชิงทองเมื่อคืนวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และตรงกับรายงานการสืบสวนที่ระบุว่า หลังคนร้ายก่อเหตุได้วิ่งหนีออกจากห้างฯ เซ็นทรัล ขอนแก่น เข้าไปถนนชุมชนหลักเมือง ห่างจากห้างฯ ประมาณ 100 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางที่คนร้ายหลบหนีและมุ่งหน้าไป อยู่ในระนาบของถนนดรุณสำราญตัดถนนรื่นรมย์ และรัศมี 1 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญ เช่น ตลาดรถไฟ โรงเรียนแก่นนคร บ้านพักเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟขอนแก่น ชุมชนวัดวุฒาราม และพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งค่อนข้างมืด
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ชุดสืบสวนได้แบ่งหน้าที่การทำงาน กระจายกำลังปูพรมค้นหาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้ทราบเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ขณะนี้อยู่ระหว่างแบ่งกลุ่มบุคคลต้องสงสัย เพื่อสืบหาตัวคนร้ายจากบุคลิก, ท่าทาง และการแต่งกายวันที่ก่อเหตุ จากพยานแวดล้อมต่างๆ ชุดสืบสวนฯ ยังมั่นใจว่าคนร้ายยังอยู่ในขอนแก่น และคาดว่าลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะไม่พบยานพาหนะที่ใช้หลบหนี เมื่อดูจากพฤติการณ์การก่อเหตุ ยังไม่ยืนยันว่าคนร้ายอายุประมาณเท่าไหร่ เป็นชายหรือหญิง แต่ไม่น่าจะใช่มืออาชีพ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว เหลือเพียงรอผลตรวจมาเทียบเคียงเพื่อยืนยันตัวคนร้าย จากนั้นพนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ส่วนรูปพรรณสัณฐานที่ สภ.เมืองขอนแก่น ได้เผยแพร่ผ่าน Facebook พบว่าคนร้ายได้โม่งสีดำคลุมศีรษะใบหน้า สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ และสวมเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นด้านหลังเขียนภาษาอังกฤษว่า “WHY SO SERIOUS” ทับไว้อีกชั้นหนึ่ง สวมกางเกงยีนขายาวสีดำ ยี่ห้อ Mc สวมรองเท้าผ้าใบไม่ทราบยี่ห้อ สวมถุงมือยาง
สำหรับทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 3 บาท 8 เส้น น้ำหนักรวม 24 บาท มูลค่าประมาณ 720,000 บาท หากประชาชนพบเบาะแส แจ้งได้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น มีรางวัลนำจับ 50,000 บาท. – สำนักข่าวไทย