บุรีรัมย์ 8 พ.ย.- ลุงเมาล้มหัวฟาดพื้นมารักษาที่โรงพยาบาล โวยวายทำลายเครื่องมือแพทย์เสียหาย ล่าสุดลุงยกมือไหว้ขอโทษ และยอมชดใช้ค่าเสียหายแล้ว โดยยอมรับว่าเครียดเมียป่วย
เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part1 โพสต์คลิปคนเมาเข้าไปอาละวาดทำลายข้าวของในโรงพยาบาล พร้อมเขียนข้อความว่า “มาวและเพี้ยนมาทำลายข้าวของใน รพ.แบบนี้ก็ได้หราาา ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์เมาแล้วอาละวาดเอะอะโวยวายทำลายข้าวของ รพ.ค่ะ รพ.อำเภอแห่งหนึ่งในบุรีรัมย์ เหตุเรื่องนี้เกิด 5/11/64 ทาง รพ.แจ้งความไว้แล้ว อยากให้เป็นบทเรียนกับสังคมค่ะ” หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้าไปคอมเมนต์ ส่วนใหญ่ต่างต่อว่าพฤติกรรมของชายที่ก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปหาข้อมูลเพิ่ม หลังทราบว่าโรงพยาบาลแห่งนี้คือ โรงพยาบาลพุทไธสง พบร่องรอยกระจกประตูหน้าห้องผู้ป่วยฉุกเฉินแตกเสียหาย จนท.ต้องนำแผ่นพลาสติกมาปิดเอาไว้ชั่วคราว และเครื่องวัดความดันอัตโนมัติที่ใช้สำหรับวัดความดันผู้ป่วยเสียหายใช้การไม่ได้
สอบถามพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติงานพยาบาลผู้ป่วยนอกเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 19.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นเวลานอกราชการ มีหญิงคนหนึ่งพาคุณลุงซึ่งมีอาการเลือดกำเดาไหลมารักษาที่ รพ.พร้อมแจ้งว่าคุณลุงลื่นล้มในห้องน้ำ พยาบาลก็พยายามตรวจอาการเบื้องต้น แต่จู่ๆ คุณลุงซึ่งน่าจะเมาจนคุมสติไม่ได้ก็อาละวาด ด่าทอเจ้าหน้าที่ทั้งยังทุบกระจกประตูห้องฉุกเฉินจนแตก และยกเครื่องวัดความดันอัตโนมัติทุ่มกับพื้นจนพัง หมอ พยาบาล และคนไข้ต่างตกใจ หนีไปหลบตามห้องต่างๆ เพราะกลัวไม่ปลอดภัย เพราะขนาด รปภ.และ เจ้าหน้าที่เวรเปลเข้าไปพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้คุณลุงใจเย็นแต่ไม่เป็นผล จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยระงับเหตุ
ด้านนายแพทย์ ธวัชชัย มากมน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทไธสงให้ข้อมูลว่าคนก่อเหตุคือ นายสานิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) มา รพ.เพราะล้มในห้องน้ำ แล้วมีเลือดกำเดาไหล รวมถึงมีอาการเมาเหล้าด้วย หรือจากการบาดเจ็บที่ศีรษะกันแน่ ตอนแรกเจ้าหน้าที่จะส่งต่อ รพ.บุรีรัมย์ เพื่อตรวจอาการบาดเจ็บทางสมอง แต่ผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการรักษาในเบื้องต้น ซึ่งต้องให้น้ำเกลือ หรือว่าสารน้ำทางหลอดเลือด ผู้ป่วยขัดขืนด่าทอ ต่อว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติงานตามปกติ ไม่ได้ทำอะไรให้ไม่พอใจ นอกจากนี้ ยังทุบกระจกหน้าห้องฉุกเฉิน และทุบเครื่องวัดความดันอัตโนมัติ ทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์เสียหายมูลค่า 75,000 บาท (เฉพาะราคาเครื่องวัดความดัน) ส่วนประตูกระจกอยู่ระหว่างประเมินราคา
ช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤศจิกายน ปรากฏว่าผู้ป่วยหายจากอาการเมา และผลตรวจไม่พบว่ามีอาการทางสมอง แต่จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ พยาบาลจึงเย็บแผลแตกที่ศรีษะและให้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน และล่าสุดทีมข่าวตามที่บ้านของลุง “ลุงแก่น” หรือ ลุงสานิตย์ อายุ 66 ปี ที่ยังอยู่ในสภาพศีรษะมีผ้าพันแผลปิดเอาไว้ และใต้ตาซ้ายก็มีแผล ซึ่งเกิดจากการที่ลื่นล้มศรีษะฟาดพื้นและช่วงชุลมุนที่ดิ้นขัดขืนเจ้าหน้าที่ ก็ยอมรับว่าวันเกิดเหตุรู้สึกเครียดเพราะเป็นห่วงภรรยาที่ป่วยโรคไตถูกส่งไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์ แต่ตัวเองไปนอนเฝ้าภรรยาที่ รพ.ไม่ได้ เพราะสถานการณ์โควิด จึงไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนบ้าน แต่ก็ดื่มไปแค่ 3-4 แก้ว อาจเป็นเพราะหยุดดื่มไปแล้วกว่า 20 ปี พอิกลับมาดื่มอีกทำใหเมาหนัก คุมตัวเองไม่ได้ แล้วไปลื่นล้มในห้องน้ำจนเลือดกำเดาไหล พี่สาวจึงพาไปส่ง รพ.แต่ด้วยความที่เมาหนักขาดสติ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าไปอาละวาดโวยวายด่า จนท. และทำลายข้าวของใน รพ.มารู้อีกทีตอนเช้าของอีกวันที่สร่างเมาแล้ว ตอนนั้นตกใจและรู้สึกผิดที่ไปแสดงพฤติกรรมแบบนั้น เบื้องต้นก็ได้ขอโทษ รพ.ไปแล้ว ส่วนความเสียหายจะหาช่างไปซ่อมประตูกระจกให้ ส่วนเครื่องวัดความดันรอคุยกับรพ.อีกครั้ง พร้อมกันนี้ลุงแก่นยังได้ยกมือไหว้ขอโทษ จนท.และ รพ.อีกครั้ง ยืนยันต่อไปนี้เลิกดื่มเหล้าเด็ดขาด
สำหรับเหตุการณ์นี้ ตำรวจจะเรียกลุงและรพ.ไปเจรจาไกล่เกลี่ยอีกครั้ง และเบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย