อุบลราชธานี 2 พ.ย.-เจ้าของเต็นท์รถมือสองที่อุบลฯ โพสต์เตือนภัย มิจฉาชีพใช้สลิปปลอมหลอกซื้อรถกระบะ ส่งขอนแก่น สุดท้ายกระโดดขึ้นรถชิ่งหนี สังคมเชียลประกาศตามหารถหาย กดดันจนคนร้ายนำไปจอดข้างโรงพยาบาล
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความ “รถเมย์ถูกมิจฉาชีพโจรกรรมไปค่ะ ท่านใดพบเห็นรถตามภาพช่วยแจ้งเบาะแสด้วยนะคะ เรื่องราวเป็นดังนี้ค่ะ ลูกค้าโทรมา แจ้งชื่อว่าเฮียตง เป็นเจ้าของร้านทอง ที่บิ๊กซี ขอนแก่น สนใจที่จะซื้อรถ Ford raptor สีเทา ประมาณตอนเที่ยง และนัดส่งรถ ที่บิ๊กซี ขอนแก่น จึงสไลด์รถจากอุบลราชธานี ไปส่งให้ เวลา 18.00 น. พอรถถึงยังไม่ทันได้คุยรายละเอียด ถอยรถลงจากสไลด์มาขึ้นขับรถไปเลยค่ะ ลูกน้องที่ไปส่งรถตกใจ จึงรีบโทรกลับมาสอบถามว่าทำไมลูกค้าถึงขับรถไปเลย และปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบ เป็น สลิปปลอม” หลังโพสต์ออกไป ชาวเน็ตต่างแชร์อย่างรวดเร็วและประสานตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น วิทยุสกัดจับแต่ก็ไรวี่แวว
ตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวมาจาก บ.มงคลคาร์เซ็นเตอร์ อำเภอเมืองอุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับนางเมวดี จุลทัศน์ กรรมการผู้จัดการ บ.มงคลคาร์เซ็นเตอร์ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า มีมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งในห้าง บิ๊กซีขอนแก่น ติดต่อเข้ามาทางบริษัทผ่านทางผู้บริหารระดับสูงว่าสนใจรถยนต์ Ford raptor สีเทา ที่รีวิวประกาศขายทางยูทูบ จึงพูดคุยกันตกลงราคาที่ 1,170,000 บาท จากนั้นมิจฉาชีพรายนี้ปลอมข้อความสลิปการโอนเงินมัดจำ 1,170,000 บาท ส่งให้ทางผู้บริหารนัดส่งมอบรถกันที่ห้างบิ๊กซี ขอนแก่น ในช่วงเย็นของเมื่อวาน (1 พ.ย.) เมื่อรถไปถึงจุดนัดหมาย มีชายขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกนิรภัย และใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ขับรถออกจากบิ๊กซีไป จากนั้นไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้ ทำให้พนักงานที่ไปส่งรถเกิดความสงสัยติดต่อกลับมาที่บริษัท เพื่อตรวจสอบยอดเงินพบว่าเป็นสลิปปลอม จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น
ช่วงเช้าวันนี้ มีพลเมืองดีโทรเข้ามาบอกว่าพบรถคันที่หายจอดอยู่หลังโรงพยาบาลศรนครินทร์ จึงส่งพนักงานไปตรวจสอบพบว่าเป็นรถคันที่หายจึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานลายนิ้วมือ เส้นผมของคนร้ายเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
นางเมวดี ยังเปิดเผยอีกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้เป็นอุทธาหรณ์ ให้ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ต้องระมัดระวังเพิ่มรอบคอบในการส่งมอบรถ ในการขายรถให้มากขึ้น เคสนี้ข้อบกพร่องของเราอย่างหนึ่ง คือ ยังไม่ได้ตรวจเช็กเงินที่โอนเข้าบัญชี อาจจะด้วยความเร่งรีบหรืออะไรก็ตาม ซึ่งมันผิดขั้นตอนก่อนที่เราจะไปส่งมอบรถไปส่งลูกค้า ยังไงก็ตามเราควรจะต้องตรวจสอบเงินให้เรียบร้อยก่อน เราอาจจะรีบเร่งส่งรถให้ทันตามกำหนดเวลาของลูกค้าจนลืมมองเห็นถึงจุดที่ผิดสังเกต เช่น ลูกค้าซื้อรถเขา แต่ยังไม่ได้ดูรายละเอียดรถเลย
หลังจากเราโพสต์เรื่องนี้ลงไปในสื่อโซเชียล พบว่ามีผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเดียวกัน เจอมิจฉาชีพโทรเข้ามาด้วยเบอร์โทรเดียวกัน ทั้งที่อยุธยา สงขลา อุดรธานี และกรุงเทพฯ แต่ยังไม่มีใครได้รับความเสียหาย เพราะว่าเขาจะไปตรวจสอบ เจอปุ๊บก็ไม่ได้ไม่ได้ส่งมอบรถ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองต้องขอขอบคุณพลังโซเชียลที่แชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้คนร้ายไม่กล้าเคลื่อนย้ายรถ และตำรวจ ทหาร พลเมืองดี ผู้ประกอบการเต็นท์รถต่างๆ ที่ให้ข้อมูลของมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งคาดว่าได้ก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อยากขอให้ทุกฝ่ายติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้และใครที่มีเบาะแสมิจฉาชีพสามารถแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อจะได้ไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนกับคนอื่นอีก.-สำนักข่าวไทย