ตำรวจภูธรภาค 8 แถลงปิดคดี โจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 28 ต.ค.- หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองคำในห้างทองทวีชัยใจกลางเมืองภูเก็ต เมื่อช่วงดึกของวันที่ 23ต.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายกวาดทองคำไปมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท วันนี้ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว ล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีการแถลงผลการจับกุม


ตำรวจภูเก็ตใช้เวลาเพียง 3 วัน หลังเกิดเหตุก็สามารถคลี่คลายคดีคนร้ายเจาะฝ้าเพดานเข้าไปขโมยทองในห้างทองทวีชัยมารับโทษได้ตามกฎหมาย โดยคนร้ายรายนี้เป็นชาวเมียนมาเคยเป็นช่างก่อสร้างมาก่อน อาศัยอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 12 ปี รับสารภาพว่าก่อเหตุคนเดียวเพราะต้องการนำเงินไปแต่งงานและใช้หนี้พนันออนไลน์ โดยตำรวจสามารถยึดของกลางเป็นทองคำน้ำหนัก 363 บาทพร้อมกับเงินสดคืนมาได้อีกจำนวนหนึ่ง

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แถลงข่าวจับกุมนายอองชาย สัญชาติเมียนมา อายุ 26 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุเข้าขโมยทองคำและเงินสดภายในห้างทองทวีชัย ถนนระนอง อำเภอเมืองภูเก็ต เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา


โดยตำรวจเข้าจับกุมตัวนายอองชายภายในบ้านพักคนงานพร้อมของกลางเป็นทองรูปพรรณจำนวน 725 รายการ น้ำหนักรวม 363 บาทและเงินสดจำนวน 33,600 บาท มูลค่ารวมกัน 10 ล้านบาท พร้อมด้วยเสื้อผ้าที่สวมในวันเกิดเหตุและรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนี

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุคนเดียว โดยได้เข้าไปดูลาดเลาก่อนเข้าก่อเหตุจำนวน 2 ครั้ง คือวันที่ 20 และ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ โดยวันก่อเหตุนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในบ้านร้างที่อยู่ใกล้กับห้างทองทวีชัย จากนั้นปีนขึ้นหลังคาร้านทองบริเวณชั้น 2 ของบ้าน ทำการเปิดแผ่นกระเบื้องหลังคาและปีนลงทางฝ้าเพดาน เพื่อเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุจากนั้นได้เดินลงไปชั้น 1 ของบ้านหลังดังกล่าวพบเจ้าของบ้านเป็นผู้สูงอายุเป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่บริเวณชั้นล่าง คนร้ายจึงลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ และบังคับให้ผู้เสียหายเปิดตู้เซฟเพื่อต้องการจะเอาทรัพย์

แต่ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงอายุ 65 ปี พยายามต่อสู้ใช้เก้าอี้ทุบคนร้าย คนร้ายจึงตีซ้ำด้วยไม้จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะกวาดทองคำและเงินสดที่ได้ใส่ถุงพลาสติก และหลบหนีด้วยรถจักรยานยนต์กลับไปยังบ้านที่พักอาศัยซึ่งอยู่ห่างจากร้านทองราว 3 กิโลเมตร กระทั่งตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานและเข้าจับกุมพร้อมยึดของกลางทั้งหมดได้ในที่สุด


ด้านนางเบญจพร เจ้าของห้างทองทวีชัยขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ตที่สามารถคลี่คลายคดีได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยหลังจากนี้จะมีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยภายในร้านทองให้ดียิ่งขึ้นเพื่อป้องกันคนร้ายก่อเหตุซ้ำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ