นครราชสีมา 20 ก.ย.-โฆษกตำรวจภูธรภาค 3 แจงคลิปรถตู้ตำรวจ ขับมาจอดชายหาดชะอำ อยู่ระหว่างเดินทางกลับจากการจับกุมผู้ต้องหาหนีคดี 10 ปี เผยคนร้ายขอให้ใช้รถตำรวจไปรับตัว และให้พาชาวบ้านไปด้วย
กรณีชาวบ้านบันทึกภาพรถตู้ตำรวจของ สภ.พลกรัง จ.นครราชสีมา ขับมาจอดชายหาดชะอำ มีกลุ่มบุคคล 7-8 คน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่กำลังมาเที่ยวทะเล ถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียล ตำรวจภูธรภาค 3 ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ตำรวจระดับ รองผู้กำกับการ ยศ พ.ต.ท. นำไปใช้จริง ถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่านำไปใช้ในราชการหรือส่วนตัว
ล่าสุดผลสอบสอบสวนทราบข้อมูลว่า นายตำรวจคนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ราชการจริง โดยนำรถตู้คันใช้ในแผนการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญที่หลบหนีคดีกว่า 10 ปี เรื่องนี้ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 โฆษกตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ทราบว่า เป็นการนำรถตู้ไปใช้ในแผนการจับกุมผู้ต้องหารายหนึ่งที่หนีคดีมากกว่า 10 ปี โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว ทราบชื่อ นายสไว อายุ 60 ปี อดีตนายก อบต.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยา และลูกเลี้ยงเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อพฤษภาคม 2554 ก่อนหลบหนี
ศาลจังหวัดนครราชสีมาได้ออกหมายจับ ที่ 134/2554 ไว้แล้ว ขณะที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาโดยตลอด คดีนี้ผ่านไป 10 ปี เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 นายไสว ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้โทรติดต่อหา ตำรวจของภูธร จ.นครราชสีมา ทางแอปพลิเคชันไลน์ แจ้งว่าขณะนี้พักอาศัยและทำงานอยู่ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กำลังมีปัญหากับญาติของตนเอง อยากให้ตำรวจนายดังกล่าว มารับเพื่อจะย้ายที่พักอาศัย โดยขอให้ไปส่งที่ จ.ปทุมธานี และขอให้ใช้รถยนต์ตู้ตำรวจมารับเพื่อไม่ให้ถูกสงสัยในระหว่างเดินทาง หากพบเจอด่านตรวจ และภายในรถขอให้มีตำรวจคนเดียว นอกจากนั้นขอให้เป็นชาวบ้านทั่วไป เพราะให้ดูเหมือนมาท่องเที่ยว ประกอบกับคลางแคลงใจว่าอาจจะถูกตลบหลังจับกุมได้ เมื่อทราบ จึงได้แจ้งให้ ผกก.สภ.พลกรัง เพื่อทราบและทำหนังสือขออนุมัติใช้รถยนต์ตู้เพื่อใช้เดินทางไปจับกุมตัวนายไสว
ขณะเดียวกันตำรวจนายดังกล่าว ก็ได้ประสานกับตำรวจสืบสวนของตำรวจภูธร ภาค 8 พร้อมให้ข้อมูลของนายไสวทั้งหมดไว้ด้วย และหากทางตำรวจสืบสวนภาค 8 จับกุมได้ก่อนจะเดินทางถึง ก็ให้จับกุมได้ทันทีไม่ต้องรอ ต่อมาวันที่ 15 กันยายน 2564 ตำรวจนายดังกล่าว พร้อมอาสาสมัครพลเรือนใช้รถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง เดินทางไป จ.สุราษฎร์ธานี จนกระทั่งวันที่ 16 กันยายน เวลา 12.00 น. ถึงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากตำรวจสืบสวนภาค 8 ว่า สามารถจับกุมตัวนายไสวได้แล้ว
ตำรวจนายดังกล่าว จึงแจ้งให้ตำรวจสืบสวนภาค 3 ทราบ เพื่อให้เดินทางไปรับตัวนายไสว เมื่อประสานต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางออกจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อกลับ จ.นครราชสีมา จนวันที่ 17 กันยายน เวลา 11.00 น. ระหว่างเดินทางกลับตำรวจนายดังกล่าว และอาสาสมัครพลเรือนจึงแวะทานอาหารกลางวันกันที่หาดชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งก็ปรากฏตามวิดีโอที่มีผู้ถ่ายและโพสต์
การชี้แจงข้างต้นยืนยันว่า เป็นการใช้รถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง เพื่องานของทางราชการโดยมิได้ใช้เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใดมีเอกสารหลักฐานประกอบการชี้แจงทั้งหมด เช่น เอกสารการขออนุมัติใช้รถยนต์ตู้เพื่อไปสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับและเอกสารการสื่อสารต่างๆระหว่างตำรวจนายดังกล่าว กับนายไสว ผู้ต้องหา และตำรวจนายดังกล่าว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.8 ก่อน-ขณะ-หลังจับตัวนายไสว ผู้ต้องหา.-สำนักข่าวไทย