ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาหนุ่มเมียนมาลักพาตัว “น้องจีน่า”

เชียงใหม่ 8 ก.ย. – ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เผยยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาหนุ่มเมียนมา ลักพาตัว “น้องจีน่า” แม้เบื้องต้นรับสารภาพก่อเหตุ อยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องแรงจูงใจและผู้ร่วมก่อเหตุ


บรรยากาศที่สถานีตำรวจภูธรแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจตรีวีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยความคืบหน้าการสอบปากคำนายเสี่ยว หรือนายอาผะ อายุ 44 ปี ที่ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลักพาตัว “น้องจีน่า” และนำเด็กใส่ผ้าขาวม้าผูกเอวขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปหลายที่ แต่ไม่ได้ไปจุดหน้าถ้ำตามที่บอกตอนแรก แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังให้การวกวน จึงต้องนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนจะก่อเหตุคนเดียวหรือมีคนอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ หลังถูกตั้งข้อสังเกตว่าในระหว่างที่นายอาผะถูกควบคุมตัวอยู่นั้นอาจมีผู้นำตัวเด็กไปปล่อยไว้ตรงจุดที่พบตัวก็เป็นไปได้ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป เช่นเดียวกับสาเหตุแรงจูงใจที่นายอาผะลงมือก่อเหตุยังอยู่ระหว่างขยายผล ตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งไทม์ไลน์ต่างๆ และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะมีการสรุปให้ชัดเจนและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

พลตำรวจตรีวีรชน เปิดเผยว่า ได้มีการตรวจหลักฐานบนกระท่อมเพิ่มเติม พบขวดน้ำ ส่วนการตรวจสารเสพติดต้องรอผล เบื้องต้นดูเหมือนเป็นคนที่มีสภาพจิตใจไม่ปกติ หรืออาจเป็นคนสองบุคลิกได้ ส่วนรูปคดีตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนเบื้องต้นเท่านั้น ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีใดๆ โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม


บรรยากาศที่สถานีตำรวจภูธรแม่แตง ก่อนหน้านี้ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน รวมถึงสอบปากคำพยานและผู้ถูกซัดทอดเพิ่มเติม ทีมค้นหายันไม่เจอตัวน้องจีน่าบนกระท่อมก่อนหน้านี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตมีคนพาตัวไปไว้ข้างบน หากอยู่หลายวันจริงต้องมีร่องรอย

บรรยากาศที่สถานีตำรวจภูธรแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ ได้นำตัวนายอาผะ อาจ่อ ผู้ต้องหาในคดีบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอาศัยในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหา พร้อมภรรยา มาสอบสวน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน

ต่อมานายจะบูสือ จะลอ อายุ 32 ปี ลุงของน้องจีน่า ผู้ชี้จุดที่พบน้องบอกว่าเดินทางมาจากตำบลเมืองนะ อ.เชียงดาว เมื่อวันที่ 6 กันยายน มาพักกับแม่น้องที่บ้านห้วยฝักดาบ หลังให้แฟนไปถามหมอผีบอกว่าน้องอยู่บริเวณบ่อน้ำ โดยได้เดินทางมาให้การ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ โดยบอกว่าที่ทราบจุดเพราะหมอผีอยู่ที่เชียงดาวบอกให้ไปตามดูในบริเวณดังกล่าว จึงขึ้นไปในบริเวณนั้นกัน 3 คน หมอผีไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน ตนเองเจอน้องจีน่า และรีบโทรไปแจ้งกับแม่น้อง ส่วนตัวเชื่อเรื่องผีอยู่แล้วว่าเป็นไปตามที่หมอผีบอกว่ามีคนลักตัวน้องจีน่าไปไว้ตรงจุดนั้น


ขณะที่นางสาวกานต์สินี จะตา ลูกสาวของภรรยานายอาผะ (ผู้ต้องหา) ถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากถูกนายอาผะซัดทอดว่าเป็นผู้บงการให้ตนลักพาตัวน้องจีน่าไป นางสาวกานต์สินี ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมกับนายพิชิต สามี และลูกสาว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจได้พาตัวนายอาผะไปที่บ้านของตนเองและสามีที่อยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านสันปูเลย ตำบลแม่แตง โดยกลายเป็นผู้ที่ถูกซัดทอดว่าเป็นผู้บงการ จึงได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจที่ สภ.แม่แตง โดยเปิดเผยกับทางสื่อมวลชนว่า ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้บงการตามที่ถูกกล่าวหา และนายอาผะเองเป็นสามีใหม่ของแม่ตนเอง อยู่กันที่บ้านของแม่ในหมู่บ้านห้วยฝักดาบ ก่อนหน้านี้เคยอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน แต่มีปากเสียงกันกับนางสาวกานต์สินี เนื่องจากนายอาผะเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมฉุนเฉียว ชอบดื่มสุรา หลังจากเมาจะมีอารมณ์รุนแรง ชอบเพ้อเรื่องผีตามความเชื่อของตนเอง บางครั้งก็นั่งเพ้อคุยคนเดียว มีพฤติกรรมที่ชอบเล่นกับเด็กผู้หญิงเป็นพิเศษ และชอบเล่นกับลูกสาวของตนเองด้วย โดยยังชอบขอเงินแม่ของตนไปซื้อเหล้า เนื่องจากไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ที่สำคัญเคยขู่ฆ่าเพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้าด้วย

นางสาวกานต์สินี เปิดเผยอีกว่า เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ย้ายลงมาอยู่กับสามีที่บ้านสันปูเลย ตำบลแม่แตง จึงพาแม่มาอยู่ด้วย แต่นายอาผะขอมาอาศัยอยู่ด้วย และจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้เกิดมีปากเสียงและชกต่อยกับนายนายพิชิต สามี เนื่องจากไม่พอใจเรื่องดื่มสุรา และเรื่องที่ชอบเพ้อเจ้อ พูดคนเดียวอยู่ตลอดเวลา รวมถึงชอบเข้าใกล้ลูกสาวของตน จึงได้ไล่ออกจากบ้าน แล้วนายอาผะก็ขอกลับขึ้นมาอยู่ที่บ้านห้วยฝักดาบ โดยพาภรรยาขึ้นมาอยู่ด้วย จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ที่มาให้ปากคำตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวน้องจีน่า เพราะช่วงเกิดเหตุตนไปทำงานอยู่ในพื้นที่อื่น เพิ่งกลับมา

ขณะเดียวกันนายบุญพิภพ ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยค้นหาน้องจีน่า มาตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน จนถึงวันนี้ ได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจว่า ในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของเมื่อวานนี้ (7 กันยายน) ตนเองได้ขึ้นไปสำรวจตรวจจุดที่พบน้องในวันนี้ โดยยืนยันว่าตนเองขึ้นไปถึงจุดที่เป็นกระท่อมที่พบน้อง แต่ไม่มีใครอยู่ ทั้งตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้ลงมา แต่ปรากฏว่าในวันนี้ไปพบตัวน้องจีน่าในจุดดังกล่าว จึงตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าน้องจีน่าจะมอยู่ตรงจุดนั้นตลอดทั้งช่วง 3 วันที่ผ่านมา ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีคนพาน้องไปไว้ตรงจุดนั้น หลังจากที่ตนเองขึ้นไปสำรวจ และไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะอยู่ตรงนั้นข้ามคืนโดยไม่มีรอยยุงกัดหรือร่องรอยขับถ่ายแต่อย่างใด ซึ่งคำให้การของกู้ภัยกลับขัดแย้งกับคำให้การของน้าชายที่ชี้จุดว่าเจอน้องจีน่าในบริเวณนั้น

เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้นำวัตถุพยานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยที่เข้ามาให้การเพิ่มเติมด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะยังไม่มีการแถลงข่าว ขอเวลา 3 วันในการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนสรุปคดี เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรแม่แตง หลังเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำ เพื่อประชุมสรุปและมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบค้นข้อมูล หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานในหลายวันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]