ฉะเชิงเทรา 10 พ.ค. – ที่ฉะเชิงเทรา มีการเคลื่อนร่างหญิงวัย 42 ปี ที่เสียชีวิต และมีไทม์ไลน์เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จากสมุทรปราการ ไปรอไว้ที่วัด ภายหลังหญิงรายนี้ไม่ยอมให้สอบสวนโรค และปิดบ้านเงียบ ก่อนมาพบกลายเป็นศพ กระทั่งช่วงค่ำผลตรวจโควิดออกมาเป็นบวก เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการฌาปนกิจทันที
เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) กู้ภัยฉะเชิงเทราได้รับการประสานจากกู้ภัยจุดบางคล้า ให้นำชุดปฏิบัติการร่วมสนับสนุนเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งพบประวัติสุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านหลังดังกล่าวที่อยู่ใน อ.บางคล้า และเปิดเป็นร้านขายอาหารสัตว์ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านได้ เนื่องจากมีสุนัข 2 ตัว นั่งเฝ้าศพ พร้อมกับขู่คำราม เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปใกล้ กู้ภัยจึงต้องประสานปศุสัตว์อำเภอ นำวัคซีนผสมยาสลบมายิงสุนัข จากนั้นชุดปฏิบัติการที่สวมชุด PPE ได้เข้าไปเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด และทำการแพ็กศพ พร้อมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามขั้นตอน ก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปที่วัดหัวสวน เพื่อรอผลยืนยันตรวจหาเชื้อโควิด
สาธารณสุขอำเภอบางคล้า เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต ชื่อ น.ส.ชรินดา อายุ 42 ปี มีลักษณะเป็นสาวทอม ทำงานเป็นเสมียนประจำร้านขายอาหารสัตว์แห่งนี้ และพักอยู่ที่นี่ด้วย ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคได้รับการประสานจาก จ.สมุทรปราการ ว่า ผู้เสียชีวิตและแฟนสาวมีประวัติเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อที่ จ.สมุทรปราการ เพราะไปร่วมงานศพของพ่อแฟน ซึ่งสาธารณสุขพยายามเข้ามาสอบสวนโรคถึง 2 ครั้ง แต่ผู้เสียชีวิตปิดบ้านเงียบ ไม่ยอมออกมาพบเจ้าหน้าที่ สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า พักหลังผู้เสียชีวิตหมกตัวอยู่ในห้อง โดยใช้วิธีตะโกน และโทรศัพท์สั่งงานลูกน้อง ซึ่งชาวบ้านก็รู้สึกแปลกใจในพฤติกรรม จนวันนี้ลูกน้องโทรหาและเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเคลื่อนศพมาถึงวัด เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการใดๆ เพราะอยากรอผลตรวจโควิดก่อน กระทั่งเวลา 19.30 น. พระนพพร ฐนรโต ซึ่งเป็นพระลูกวัดหัวสวน ได้รับโทรศัพท์ยืนยันจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทราว่า ผลตรวจโควิดของผู้เสียชีวิตเป็นบวก ให้เร่งดำเนินการฌาปนกิจ พระและสัปเหร่อจึงได้ดำเนินการฌาปนกิจทันที
ด้านเพื่อนของผู้เสียชีวิต ยอมรับเพิ่งทราบว่าเพื่อนป่วยโควิดและเสียชีวิต ขณะนี้เร่งติดต่อไปยังพ่อแม่ของเพื่อนที่อยู่ จ.ร้อยเอ็ด ให้มารับกระดูกในเช้าวันนี้ (10 พ.ค.) ส่วนก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้เจอกับผู้เสียชีวิต เพราะเขามักจะอยู่กับแฟน แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่า แฟนเดินทางไปกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ทราบว่าไปทำงานหรือไปธุระ
ขณะที่นายไพโรจน์ บุญหิรัญ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทีมรับเรื่องกรณีที่ต้องจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 หรือศพที่คิดว่าสุ่มเสี่ยง เพราะอย่างกรณีนี้ กว่าจะนำร่างผู้เสียชีวิตมาไว้ได้ ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง และไม่มีแนวทางชัดเจนว่าต้องดำเนินการกับศพลักษณะนี้อย่างไร รวมถึงไม่มีสถานที่เก็บรักษาศพก่อนผลตรวจโควิดจะออก ทำให้ทีมงานต้องทนร้อนอยู่ในชุด PPE หลายชั่วโมง เนื่องจากภารกิจยังไม่เสร็จ. – สำนักข่าวไทย