รวบผัวเมียหลอกซื้อรถ 16 คัน โอนเงินคันละบาท ยันบริสุทธิ์-ขู่ฟ้องกลับ

ชลบุรี 3 เม.ย. – ตำรวจรวบสองสามีภรรยาหลอกซื้อรถยี่ห้อดัง 16 คัน โดยปลอมสลิปโอนเงินจาก 1 บาท เป็น 16 ล้านบาท ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จะฟ้องกลับคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด


รถยนต์ยี่ห้อดัง สภาพป้ายแดง จำนวน 16 คัน เป็นของกลางที่ตำรวจแกะรอยตามยึดได้จากสัญญาณ GPS ที่ติดอยู่บนรถ หลังตัวแทนจำหน่ายรถ สาขาเพชรเกษมเข้าแจ้งความตำรวจ สน.เพชรเกษม ให้ดำเนินคดีกับนายองอาจ ทรัพย์มั่น อายุ 24 ปี ที่หลอกซื้อรถยนต์ 18 คัน ด้วยการทำสลิปโอนเงินปลอม โดยมีนางสาวณัฐฐนันท์ อิทธิพร อายุ 43 ปี แฟนสาว รู้เห็น

หลังจากนั้นตำรวจพบสัญญาณ GPS ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เริ่มจากบ้านพักในตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง พบรถป้ายแดง 3 คัน อยู่ในโรงรถ โดยในรถพบกระเป๋าเงิน บัตรเอทีเอ็ม และเอกสาร ระบุชื่อนายองอาจ และนางสาวณัฐฐนันท์ไว้อย่างชัดเจน จากนั้นสัญญาณ GPS โผล่ที่ชายทะเลอำเภอสัตหีบ โดยพบรถอีก 4 คัน จอดทิ้งไว้ และพบอีก 2 คัน ในพื้นที่ตำบลนาเกลือ ก่อนที่ตำรวจจะแกะรอยยึดรถที่เหลือทั้งในจังหวัดสระแก้ว 1 คัน ปราจีนบุรี 1 คัน และกรุงเทพมหานครอีก 5 คัน คาดว่ารถทั้งหมดน่าจะเอามาประกาศขายทางออนไลน์ และข้ามชายแดนขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน


สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เริ่มจากการติดต่อโชว์รูมรถ โดยซื้อจริงจ่ายจริงก่อน 1 คัน จากนั้นติดต่อพนักงานขายอีกครั้ง อ้างว่าจะซื้อรถรวม 18 คัน ด้วยเงินสด โดยใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทรถ 1 บาท ก่อนปลอมสลิปเปลี่ยนจำนวนเงิน และให้แฟนสาวเลือกส่งสลิปการโอนให้พนักงานขายผ่านโทรศัพท์มือถือในช่วงค่ำ เมื่อพนักงานขายทราบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีแล้วจึงเริ่มทยอยส่งมอบรถตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม จนครบ 16 คัน รวมเป็นเงิน 16.2 ล้านบาท ก่อนที่้บริษัทจะเอะใจตรวจสอบพบว่าเงินที่โอนเข้าบัญชีบริษัทเป็นเงินเพียง 1 บาทเท่านั้น

ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกออกหมายจับข้อหาปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม หรือฉ้อโกงทรัพย์ ตรวจสอบประวัติพบถูกออกหมายจับศาลจังหวัดพัทยา หลังเคยติดต่อซื้อคอนโดฯ ที่พัทยา ราคา 14 ล้านบาท โดยใช้กลอุบายเดิม ด้วยการโอนเงิน 1 บาท 10 ครั้ง ก่อนส่งสลิปการโอนเงินปลอมให้กับพนักงาน

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา คุมตัวนายองอาจ และนางสาวณัฐฐนันท์ ไปสอบปากคำในคดีเก่าที่มีหมายจับที่เมืองพัทยา แต่ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ พร้อมทั้งตำหนิการนำเสนอข่าวเรื่องการหลอกซื้อรถ 16 คัน และปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น หากกระทำการจริงทางบริษัทต้องตรวจเช็กตั้งแต่คันแรกที่ซื้อมา แต่เหตุใดจึงสามารถซื้อได้ถึง 16 คัน และได้ติดต่อไปยังบริษัท บริษัทยืนยันว่าไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด และหลังมีกระแสข่าวออกไปทำให้ถูกสังคมประณาม หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จะฟ้องกลับกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น