ภาคใต้ 7 ธ.ค.- มวลน้ำก้อนใหญ่จากนครศรีธรรมราช กำลังไหลหลากเข้าท่วมเมืองตรัง
ภาพมุมสูงเผยให้เห็นถึงมวลน้ำก้อนใหญ่จำนวนมหาศาลจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ ที่ได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.เมืองตรัง ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำตอนล่างของจังหวัด และมีน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะ ต.หนองตรุด ต.บางรัก ต.นาโต๊ะหมิง และ ต.ควนปริง จนส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน และสถานที่ต่างๆ รวมทั้งพื้นที่การเกษตร เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและมีความแรงมาก
สะพานแบริ่งชั่วคราว ที่ใช้สัญจรระหว่าง ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ไปยัง ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ ถูกปิด และเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ส่วนถนนสายหนองตรุด-บ้านหลังเขา ม.1 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง มีน้ำท่วมเป็นระยะทางยาว จนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
คาดว่าน้ำที่ท่วมขังในจังหวัดตรังจะเป็นเช่นนี้ไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนไหลต่อไปยังพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำตรังใน อ.กันตัง เพื่อระบายลงสู่ทะเลอันดามันต่อไป
สถานการณ์น้ำที่ท่วมขังพื้นที่ลุ่ม ริมทะเลสาบสงขลา ทั้งในอำเภอสิงหนคร สทิงพระและระโนด จังหวัดสงขลา เริ่มดีขึ้น หลังฝนทิ้งช่วงมาแล้ว 3-4 วัน ในขณะที่ปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในบางจุด มีน้ำหนุนน้อย ทำให้สรรพกำลัง ทั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเรือผลักดันน้ำ สามารถทำงานได้อย่างเต็มกำลัง ระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมได้ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งพร่องน้ำในคลองธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นคลองที่นำมวลน้ำออกสู่ทะเลสาบสงขลา
ส่วนโรงเรียนในพื้นที่ 5 อำเภอ หลายแห่งยังถูกน้ำท่วมขัง เช่น โรงเรียนวัดคูขุด ต.คูขุด อ.สทิงพระ ต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราวเพราะสภาพในโรงเรียนยังมีน้ำท่วมขัง ทั้งครูและนักเรียนแม้จะเดินทางมาโรงเรียนแต่เปลี่ยนเป็นมาทำความสะอาดโรงเรียนแทน คาดว่าโรงเรียนจะกลับมาเปิดเรียนได้ในสัปดาห์หน้าเพราะต้องรอให้น้ำแห้งและเร่งทำความสะอาดโรงเรียน ตอนนี้ครูได้ช่วยกันบริจาคเงินส่วนตัวเพื่อนำมาซื้อของทำเป็นถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนที่ถูกน้ำท่วม โดยร่วมกันบริจาคเงินมาแล้ว 2 รอบ
สำหรับภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สงขลา ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 15 อำเภอ จาก 16 อำเภอของ จ.สงขลา มีเพียงอำเภอเดียวที่รอดคือ อ.เทพา และมีผู้เสียชีวิต 2 เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปีกับ 10 ปี นักเรียนโรงเรียนคลองรี ใน ต.คลองรี ที่จมน้ำเสียชีวิตทั้งคู่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เหตุเกิดในพื้นที่ ต.คลองรี อ.สทิงพระ
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุง พื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา ระดับน้ำบางจุดยังท่วมสูงและทรงตัว ชาวบ้านยังต้องใช้เรือในการเดินทางเข้าออก เนื่องจากน้ำในทะเลสาบมีปริมาณมากและไหลลงสู่อ่าวไทยในพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นไปได้อย่างช้า ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ริมทะเลสาบเริ่มได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน และบางจุดน้ำเริ่มเสีย และชาวบ้านที่เดินย่ำน้ำนานๆ มีอาการน้ำกัดเท้า
ขณะที่ในพื้นที่ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน ซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงควายน้ำของชาวบ้าน และอพยพควายขึ้นมาเลี้ยงไว้บนถนนในช่วงน้ำหลาก ล่าสุดพบว่ามีควายตัวเล็กหลายสิบตัวตาย เนื่องจากพลัดพรากจากฝูง และลอยน้ำเป็นเวลาวันเป็นโรคปอมบวม
ด้านศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยคณะสงฆ์พัทลุง นำถุงยังชีพ 600 ชุด ข้าวกล่อง จำนวน 600 กล่องหมี่ผัด จำนวน 700 กล่อง นำแจกจ่ายช่วยเหลือและให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม อำเภอปากพะยูน ตามโครงการพระช่วยโยมยามเจอภัย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนราษฎร ตลอดแนวริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำและเกิดภาวะน้ำท่วมซ้ำซากพบว่า ฝนได้หยุดตกมา 2 วันแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใส มีแดดแรง คาดว่าระดับน้ำจะลดลงต่ำกว่าตลิ่ง และเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้อย่างแน่นอน กองอนามัยและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ได้จัดกำลังพนักงานรักษาความสะอาดเร่งเก็บกวาดขยะที่ลอยตามน้ำมาติดค้างตามบ้านเรือน ริมถนน ท่อระบายน้ำตามชุมชนต่างๆ ที่ระดับน้ำลดลง.-สำนักข่าวไทย
