เชียงราย, เชียงใหม่ 2 ธ.ค.- หลังจากพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เดินทางมาจากเมียนมา ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในพื้นที่ภาคเหนือ นักท่องเที่ยวแห่ยกเลิกการจองที่พัก ขณะเดียวกันหลังมีข่าวลือพบผู้ป่วยรายที่ 5 ติดโควิด ทำให้โรงเรียนประกาศหยุดเรียน 3 วัน และรอการแถลงจากทางการ
3 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเพิ่มคุมเข้มเฝ้าระวังโควิด-19 หลังมีข่าวหญิงลักลอบเข้าชายแดนแม่สาย จ.เชียงราย แล้วติดโควิด พร้อมมีประวัติเดินทางไปหลายพื้นที่ แต่ยังต้องรอการแถลงยืนยันทางการ ซึ่งหากติดเชื้อจริงจะเป็นผู้ป่วยรายที่ 5 ของภาคเหนือในช่วง 1 สัปดาห์ แม้จะยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการ เบื้องต้นประวัติของหญิงคนดังกล่าว พบว่าเดินทางไปเที่ยวงานแฟร์แห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย พร้อมกับแฟนหนุ่ม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน ทำให้พนักงานของงานแฟร์ดังกล่าวต้องมีการกักตัว 14 วัน และทำให้โรงเรียนใน จ.เชียงราย 2 แห่ง โรงเรียนเทิงวิทยาคม โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ประกาศหยุดเรียน 3 วัน เพราะเกรงมีเยาวชนไปร่วมงาน จึงให้สังเกตอาการอยู่ที่บ้าน
นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า หลังจากมีคนติดเชื้อโควิด-19 จากประเทศเพื่อนบ้าน ทางโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จะนำรถชีวนิรภัยพระราชทาน 2 คัน ออกไปตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่นที่สถานีขนส่งอำเภอแม่สาย ร้านค้าที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และบางจุดในอำเภอเมือง ที่มีประวัติความเสี่ยงว่ามีกลุ่มบุคคลกลุ่มเสี่ยงเคยเข้าไป ซึ่งจะตรวจวันละประมาณ 1,000 คน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ด้านนายวรวิทย์ ชัยสวัสด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ได้ออกประกาศให้คนไทยที่อยู่ในเมียนมาเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ถูกดำเนินคดี โดยให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทีบีซีของไทย ขณะนี้ก็เริ่มมีคนไทยในเมียนมาไปลงทะเบียนผ่านทีบีซีแล้วกว่า 10 คน และจากข้อมูลทราบว่าขณะนี้ยังมีคนไทยที่อยู่โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายในฝั่งเมียนมาประมาณ 50-100 คน
ด้านผู้ประกอบการโรงแรมแอทอีท ย่านถนนทิพยเนคร จ.เชียงใหม่ ยอมรับ ข่าวการพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่เชียงใหม่ กระทบต่อธุรกิจลูกค้าตื่นตระหนกโทรมายกเลิกห้องพักในช่วงหยุดยาวที่จะถึงในวันที่ 10-13 ธันวาคมนี้ หลังจากก่อนหน้านั้นมีการยอดการจองห้องพักเต็ม ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้ภาครัฐไม่ควรปกปิดข้อมูลข่าวสาร ควรแจ้งให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว ไม่ให้รู้จากเพจ หรือออนไลน์ไปสืบประวัติผู้ป่วยว่ามาไปเที่ยวในพื้นที่ไหนมาบ้าง ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รู้ข่าวสาร ป้องกันตนเอง ทั้งนี้ ช่วงที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหดหาย โรงแรม ปรับตัวโดยลดค่าแรงงานลง 50 เปอร์เซ็นต์ ลดค่าห้องพักลง 60 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้พนักงานอยู่ได้และธุรกิจอยู่ได้ ส่วนการบริการลูกค้านวดแผนไทยที่โรงแรมจัดไว้ให้ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวไม่ได้เข้ามาพัก พนักงานนวดแผนไทยไม่มีงานทำ จึงอนุญาตให้ไปรับจ้างในอาชีพอื่นก่อน เพื่อมีรายได้เลี้ยงตนเอง
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า การพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ไม่ได้เป็นการติดเชื้อในประเทศ แต่เพื่อความไม่ประมาท ทางคณะกรรมการควบคุมโรคและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จ.ลำปาง ได้วางมาตรการเฝ้าระวัง เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสถานประกอบการ หรือสถานที่ที่ประชาชนเข้าไปใช้บริการ ต้องมีเจลแอลกอฮอล์ในการล้างมือบริการ และวัดอุณหภูมิ หากพบว่าผู้มาใช้บริการไม่สวมหน้ากากก็จะต้องจัดหาหน้ากากอนามัยให้สวมใส่ เนื่องจาก ผลสำรวจพบว่าประชาชนใน จ.ลำปาง มีใส่หน้ากากอนามัยแค่ร้อยละ 30 และจากการตรวจสถานประกอบการ มี 2 แห่งไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน จึงสั่งให้มีการปิดปรับปรุง ส่วนพื้นที่ปิด หรือห้องประชุมที่ไม่มีอากาศถ่ายเท ก็ขอความร่วมมือให้สวมใส่หน้ากาก 100%
สำหรับสถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว พบว่าใน จ.ลำปาง มี 600 แห่งมีแรงงานต่างด้าวประมาณ 2,000 คน ได้กำชับให้มีการสำรวจว่ามีแรงงานต่างด้าวคนไหนที่ลาหยุดยาว หรือสงสัยว่าจะหนีกลับบ้าน ให้เข้มงวดตรวจสอบด้วย.-สำนักข่าวไทย