กระบี่ 26 ต.ค.-สนง.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ สั่งย้ายครูยึดมือถือเด็กหญิง ม.1 ไปเปิดแชตให้เพื่อนดูทำเด็กเครียดผูกคอหวิดดับ ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชั่วคราว
ความคืบหน้าเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จ.กระบี่ ก่อเหตุผูกคอตัวเองภายในห้องนอนในบ้าน แต่โชคดีที่แม่และพี่ชาย ช่วยเหลือไว้ได้ทัน รอดหวุดหวิด จากการสอบถามสาเหตุ ทราบว่าเด็กหญิงเอเกิดความเครียดหลังครูประจำชั้นที่โรงเรียน ซึ่งเป็นครูผู้ชาย ยึดโทรศัพท์ไปแล้วไปเปิดแชตส่วนตัวให้เพื่อนๆในโรงเรียนหลายคนดู ทำให้เด็กเกิดความอับอายตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว และไม่อยากกลับไปเรียนอีก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางพ่อแม่เด็ก ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และต้องการให้ครูคนดังกล่าวออกจากโรงเรียน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่เยียวยาให้กำลังใจ พร้อมให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้เด็กมีกำลังใจในการใช้ชีวิต พร้อมฝากไปยังญาติคอยดูแล อย่างใกล้ชิด
ล่าสุดนายสายัณห์ ไกรนรา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ มอบหมายให้นายอดิศร แก้วเซ่ง รองผู้อำนวยการฯ พร้อมคณะ ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น และประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารโรงเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษา เบื้องได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ครูประจำชั้นคนดังกล่าวย้ายออกจากโรงเรียนชั่วคราว ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตั้งแต่วันนี้ไปต้นไป ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ส่งนักจิตวิทยา เข้าไปดูและให้กำลังใจทุกๆ วัน ซึ่งขณะนี้เด็กมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
นายอดิศร เปิดเผยว่า ภายหลังการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าสาเหตุที่คุณครูประจำชั้นคนดังกล่าวยึดโทรศัพท์มือถือของเด็กไปนั้น เนื่องจากกฎระเบียบของโรงเรียน ห้ามเด็กนักเรียนนำโทรศัพท์เข้าในช่วงการเรียนการสอน แต่ข่าวที่ออกไปบอกว่าครูได้เอาโทรศัพท์ไปเปิดแชตไลน์ จนทำให้เด็กเครียด จนถึงขั้นกลับไปผูกคอที่บ้านนั้น จริงๆแล้วคุณครูไม่ได้มีเจตนาเปิดแชตลับของเด็ก แต่เกิดจากการใช้โทรศัพท์ไม่เป็นแล้วไปกดพลาด ทำให้เด็กเข้าใจผิดว่าคุณครูไปเปิดแชตลับของนักเรียน ส่วนกรณีที่เด็กบอกว่ามีเพื่อนๆดูด้วยนั้น จากการสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียน ทราบว่าเด็กนักเรียนทีเปิดดูนั้นเป็นนักกีฬารักบี้ เปิดดูภาพปกติ ในแอปฯ TikTok แต่เด็กผู้เสียหายอาจจะเข้าใจผิด จึงทำให้เกิดความเครียดดังกล่าว ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร
นายอดิศร กล่าวอีกว่า แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อผู้ปกครองแสดงความประสงค์ที่จะให้ครูคนดังกล่าวออกจากโรงเรียน ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ จึงมีคำสั่งให้ครูคนดังกล่าว ย้ายออกจากโรงเรียนไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป เพื่อความสบายใจของนักเรียนและผู้ปกครอง.-สำนักข่าวไทย