ญาติคนงานชาวเมียนมารับศพเหยื่อรถไฟชนบัสกฐิน

สมุทรปราการ 13 ต.ค.-ญาติคนงานชาวเมียนมาเหยื่อรถไฟมรณะติดต่อรับศพ เผยรู้สึกช็อกหลังทราบข่าว ไม่คาดคิดตั้งใจไปทำบุญ แต่กลับเสียชีวิต

นายเมียน นาย ชาวเมียนมา เดินทางมายังนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อติดต่อขอรับศพนาย “นาย” ชาวเมียนมา อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นหลานเขยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถไฟชนรถบัสคณะกฐิน บริเวณสถานีคลองแขวงกลั่น อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บ 42 คน


นายเมียน นาย เล่าว่า หลานเขยเข้ามาทำงานที่โรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ กับแฟนสาว ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเองหลายปีแล้ว วันเกิดเหตุส่วนตัวก็ไม่ทราบว่าทั้ง 2 คนเดินทางไปทำบุญแล้วประสบอุบัติเหตุกระทั่งมีญาติโทรศัพท์มาบอก ตอนนั้นยังคิดว่า หลานสาวและหลายเขย ได้รับบาดเจ็บเพียงเท่านั้น แต่เมื่อมารู้ว่าหลานเขยเสียชีวิต ก็รู้สึกช็อกพูดอะไรไม่ออก ส่วนหลานสาว ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่เป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ เพราะเมื่อรู้ว่าแฟนหนุ่มเสียชีวิต ก็ร้องไห้ตลอดเวลา ไม่ยอมรับประทานอาหาร

สำหรับศพของนาย “นาย” ญาติคาดว่า น่าจะยังไม่สามารถดำเนินการรับศพได้ภายในวันนี้ เพราะต้องยืนยันตัวบุคคลก่อน เนื่องจากมีการเปลี่ยนชื่อ และไม่พบหนังสือเดินทางในที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานกับแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อขอดูศพ และแจ้งยืนยันไปยังญาติผู้เสียชีวิตโดยตรง เพื่อให้ประสานสถานทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ในการดำเนินการขอรับศพตามขั้นตอน


ส่วนหลังจากรับศพแล้วก็จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดด่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ตามที่โรงงานได้อำนวยความสะดวก

ขณะที่เรื่องการช่วยเหลือเยียวยา นายเมียน นาย น้าเขยของผู้เสียชีวิต บอกว่ายังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ทราบเพียงว่า ทางโรงงานและประกันภัยรถยนต์จะจ่ายเงินเยียวยาประมาณ 5 แสนกว่าบาท สำหรับตัวเองคิดว่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็มองว่าเงินจำนวนเท่าใดก็ไม่สามารถทดแทนการสูญเสียในครั้งนี้ได้ นอกจากนี้ยังฝากถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้ยกระดับด้านความปลอดภัย เพราะอุบัติเหตุในครั้งนี้ ส่วนนึงมาจากไม่มีไม้กั้นราง ซึ่งก็เคยมีบทเรียนมาแล้วหลายครั้ง วันนี้จะมีการทยอยรับศพทั้งหมด 6 ศพ เป็นชาวเมียนมา ทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง