11 ต.ค.-เปิดลำดับเหตุการณ์อุบัติเหตุ รถบัสของคณะกฐินสามัคคีจากจังหวัดสมุทรปราการ ถูกรถไฟบรรทุกสินค้าชนเข้าอย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย
ช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อรถบัสคณะกฐิน ซึ่งเดินทางจาก จ.สมุทรปราการ จะไปทอดกฐินที่วัดบางปลานัก จ.ฉะเชิงเทรา เพียงอีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึงที่หมายแล้ว แต่ทว่าถูกรถไฟบรรทุกสินค้าชนเข้าอย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 40 ราย
ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ขณะที่รถบัสของคณะกฐินสามัคคีจากจังหวัดสมุทรปราการ กำลังขับพาผู้โดยสาร 62 คน ข้ามจุดตัดรถไฟบริเวณสถานีชุมทางคลองแขวงกลั่น ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะถูกรถไฟชนเข้ากลางลำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 42 ราย
ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ทำภาพจำลองเหตุการณ์ รถไฟบรรทุกสินค้าชนกับรถบัสคณะกฐิน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในครั้งนี้ จากภาพจะเห็นว่า รถบัสยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ออกเดินทางจากจังหวัดสมุทรปราการตั้งแต่เช้า พาพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งพร้อมพร้อมครัว รวม 62 คน มุ่งหน้าไปยัง วัดบางปลานัก อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ขณะเดียวกัน รถไฟขบวน 5102 บรรทุกสินค้า ก็ได้ออกเดินทางจากสถานีคลองบางพระ ตำบลบางเตย อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ระหว่างที่รถไฟกำลังจะถึงสถานี คลองแขวงกลั่น ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 08.30น. จังหวะนั้นรถบัสคณะกฐินได้ขับข้ามทางรถไฟ แต่ไม่พ้น จึงถูกชนเข้าอย่างจัง จนรถบัสคณะกฐินพลิกคว่ำ ขวางทางรถไฟ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากติดอยู่ภายในรถ ขณะที่บางส่วนกระเด็นออกนอกตัวรถ ร่างผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายจากตัวรถในระยะ 10 เมตร ทั้งนอนอยู่บนรางรถไฟ และในพงหญ้าข้างทาง เจ้าหน้าที่ได้เดินสำรวจและเก็บชิ้นส่วนอวัยวะของผู้เสียชีวิต ส่วนคนขับรถบัสนายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี เสียชีวิตติดอยู่คาพวงมาลัยรถ เจ้าหน้าที่ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บจำนวนมากออกจากตัวรถ และนำส่งโรงพยาบาล ห่างจากรถบัสเกือบ 1 กิโลเมตร พบหัวรถจักรรถไฟขบวน 5102 ที่บรรทุกสินค้ามากว่า 30 โบกี้ จากการตรวจสอบพบ มี 1 โบกี้ได้รับความเสียหาย โดยผู้ขับขี่รถไฟคือนายวีรวัฒน์ วรวงษ์ อายุ 41 ปี
เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากตัวรถทั้งหมด 18 ราย เป็นชาย 8 รายและหญิง 10 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 42 คน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร โรงพยาบาลบ้านโพธิ์ โรงพยาบาลเกษมราฏร์ และโรงพยาบาลคลองเขื่อน.-สำนักข่าวไทย