ฉะเชิงเทรา 12 ต.ค.-ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้อยู่ที่ 19 รายหลังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมวิเคราะห์ 6 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัส
พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 6 หรือ คปภ.ภาค 6 เปิดแถลงข่าวความคืบหน้าของอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัสคณะกฐิน โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 19 ราย โดยรายล่าสุดทราบชื่อ คือ นายสุปัญญา สารีรัตน์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังถูกย้ายไปรักษาที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 39 คน ซึ่งยังคงพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู 2 คน ประกอบด้วยนายฤทธิ์ เวียงคำ และ นายจักรพงษ์ ภูครองผา
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา วิเคราะห์สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ 6 ประเด็น ประกอบด้วย
1.ผู้ขับขี่รถบัสไม่คุ้นชินเส้นทาง โดยเฉพาะจุดตัดรถไฟ
2.ในรถบัสโดยสารมีการเปิดเพลงเสียงดัง ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ
3.จุดเกิดเหตุไม่มีเครื่องกั้นทางรถไฟ แต่มีป้ายเตือน และสัญญาณไฟชัดเจน
4.จุดเกิดเหตุมีลักษณะเป็นทางลาดชัน ผู้ขับขี่ต้องเร่งความเร็วเพื่อขับรถผ่าน
5.ภายในรถบัสโดยสารมีการบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าปกติ จึงเร่งเครื่องขึ้นเนินได้ช้ากว่าปกติ
6.รถไฟวิ่งมาด้วยความเร็ว ส่งผลให้ไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะกระชั้นชิดได้ทัน
สำหรับเรื่องคดีความนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ยืนยันว่าผู้ขับรถบัสได้เสียชีวิตไปแล้วทำให้คดีอาญาได้สิ้นสุดลง แต่ในทางแพ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บยังคงเรียกร้องจากบริษัทเจ้าของรถบัสคันนี้ได้ ซึ่งเบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินค่าปลงศพของสำนักงานประกันสังคม 80,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บจะได้เงินค่ารักษาพยาบาล และอีกส่วนจากประกันภัยของรถบัสทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ
สำหรับแนวทางการเยียวยาค่าสินไหมต่างๆ นั้น นางสายขวัญ เกตุดำ ผอ.ภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ.ภาค6 (ชลบุรี) เปิดเผยว่า สำหรับรถบัสคนนี้ทำประกันภัยภาคบังคับกับ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และประภันภัยภาคสมัครใจ ชั้น 3 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ กรณีเสียชีวิตจะได้เงินเยียวยาสูงสุด 500,000 บาทต่อราย แต่มีความคุ้มครองต่อครั้งไม่เกิน 10 ล้านบาท ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ราย รายละ 500,000 บาทจะเกินจากวงเงินคุ้มครอง 10 ล้านบาท จึงต้องใช้หลักในการเฉลี่ยเงินให้ได้ทุกคนตามกรอบวงเงิน โดยเบื้องต้นสามารถจ่ายเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ญาติได้ในส่วนของค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทแรกก่อน
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ให้ข้อมูลสำนักข่าวไทยว่า ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยรถยนต์นอกเหนือจากนี้ จะต้องรอผลคดีจากพนักงานสอบสวนว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท และหากพบว่าผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตทำประกันภัยประเภทอื่น ทั้งกรมธรรมพ์ประกันชีวิต หรือกรมธรรม์อุบัติเหตุ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย