นครศรีธรรมราช 17 ก.ย.-“บิณฑ์-เอกพันธ์” บุกวัดเจดีย์ไอ้ไข่ เคลียร์ดราม่ากับเจ้าอาวาส กรณีเข้าไปไลฟ์นำรูปหล่อ “ไอ้ไข่” ขอบารมีวัด สุดท้ายพนักงาน 16 คนได้กลับมาทำงานตามเดิม ลั่นทุกวัดควรมี “ไอ้ไข่” ให้คนกราบไหว้
บิณฑ์ และเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เดินทางไปที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดกระแสดราม่าจากการไลฟ์เฟซบุ๊ก นำรูปหล่อไอ้ไข่ 2 รูป ที่เช่าบูชาจากวัดเจดีย์มาขอบารมีที่วัด เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา และถูกกล่าวหาว่าผ่าฝืนกฎของวัด จนทำให้เจ้าหน้าที่ของวัด 16 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดนเจ้าอาวาสสั่งพักงาน เพราะอนุญาตให้บิณฑ์เข้าไปไลฟ์ จึงรู้สึกไม่สบายใจ ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน และต้องการมาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น วันนี้จึงมาพบเจ้าหน้าที่ทั้ง 16 คน ที่โดนพักงาน ซึ่งตนเองพร้อมจ่ายค่าชดเชยให้ทุกคน ส่วนป้ายห้ามไลฟ์ ทางวัดเพิ่งมาติดหลังจากที่ตนไลฟ์ไปเมื่อ 13 ก.ย. ยืนยันวันที่ไลฟ์ ไม่มีการหาผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ตนเองมาเช่า “ไอ้ไข่” ของแท้ มูลค่า 50,000 บาท ไปไว้ที่วัดดอนใหญ่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพราะเจ้าอาวาสเป็นพระปฏิบัติดี จึงอยากช่วย แต่ที่เป็นปัญหาเพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งไปโพสต์ว่าบิณฑ์จะไปแจกไอ้ไข่ที่วัดดอนใหญ่วันที่ 24 ก.ย.นี้ ซึ่งตนไม่รู้เรื่อง และไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น จึงอยากให้ตามตัวมาพูดให้ชัดเจนว่าทำไปเพื่ออะไร อีกทั้ง “ไอ้ไข่” เป็นสิ่งที่ชาวบ้านศรัทธา กราบไหว้ เพื่อช่วยเหลือวัดที่ขาดแคลนปัจจัย บิณฑ์ ยังโชว์เหรียญไอ้ไข่ปี 26 ซึ่งพกติดตัวไว้ตลอด โดยบอกว่าศรัทธาเลื่อมใสไอ้ไข่มานานแล้ว ตอนนี้เหรียญราคาเป็นล้านแล้ว
และเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดไอ้ไข่ อนุญาตให้บิณฑ์และเอกพันธ์เข้าพบภายในกุฏิ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปภายใน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งบิณฑ์และเอกพันธ์ได้ขอโทษเจ้าอาวาส และเจ้าหน้าที่ของวัดทั้ง 16 คน ที่ต้องมาเดือดร้อน และเข้าใจเจตนาของทางวัด ซึ่งไม่ได้ห้ามไลฟ์ แต่ห้ามนำวัตถุมงคลทุกชนิดทั้งของวัดและนอกวัดเข้ามา เพราะเกรงจะมีการนำไปแอบอ้าง เจ้าอาวาสยังเมตตาให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 16 คน กลับมาทำงานได้ตามเดิมเพียงแต่โดนว่ากล่าวตักเตือน ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่กระทบความศรัทธาของขอพุทธศาสนิกชนที่มีต่อไอ้ไข่ และอยากให้ทางวัดเปิดใจให้ที่อื่นสามารถสร้างรูปปั้นไอ้ไข่ได้ ไม่ใช่เพื่อพุทธพาณิชย์ แต่เพื่อทำนุบำรุงศาสนา และวัด.-สำนักข่าวไทย