ชลบุรี 18 ส.ค. – ครอบครัว “น้องเมย” ยอมรับ 3 ปีที่ผ่านมา คดียังไม่จบ ยังฝังในความทรงจำที่เลวร้าย พอเห็นหมายเรียกเกณฑ์ทหาร ยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวด
ครอบครัวตัญกาญจน์ ทั้งนายพิเชษฐ์ นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการได้รับหนังสือเรียกตัวให้เข้ารับการเกณฑ์ทหารของ “น้องเมย” ปรากฏว่า ช่วงเช้าวันนี้ (18 ส.ค.) สัสดีจังหวัดชลบุรี และสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ได้เข้าแสดงความเสียใจต่อครอบครัว ยืนยันว่าไม่มีเจตนาตอกย้ำ หรือย้ำปมเรื่องการเสียชีวิตของน้องชาย แต่น่าจะเกิดจากความผิดพลาดทางข้อมูลระหว่างอำเภอต่ออำเภอ อีกทั้งระบบข้อมูลของพลเรือนกับระบบของทหารยังไม่เชื่อมต่อกัน ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ถือเป็นเรื่องตลกร้าย และเชื่อว่าสัสดีจังหวัดและสัสดีอำเภอ ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น แต่เชื่อว่าข้อผิดพลาดต่างๆ น่าจะเกิดจากความล้าหลังในการจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงานทหาร จึงอยากเสนอต่อทางกองทัพให้พิจารณาเรื่องของการจัดสรรงบประมาณว่า น่าจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศ มากกว่าการนำไปจัดซื้อยุทโธปกรณ์
ส่วนความคืบหน้าการหาความเป็นธรรมให้แก่การเสียชีวิตของน้องชายนั้น ที่ผ่านมาการยื่นฟ้องหรือการแจ้งความดำเนินคดีต่างๆ ที่ทางครอบครัวทำมาตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยได้เข้าแจ้งความกับผู้ที่เชื่อว่ามีส่วนต่อการเสียชีวิตของน้องชายที่ สภ.บ้านนา และ สภ.เมืองนครนายก ถึงวันนี้ยังคงเงียบหาย โดยเฉพาะเรื่องของผลชันสูตรการเสียชีวิตที่ยังอยู่ในชั้นอัยการ ส่วนอีกหนึ่งคดีได้ถูกยกฟ้อง วันนี้ครอบครัวจึงเตรียมที่จะนำหลักฐานใหม่เข้าแจ้งความเอาผิดกับข้าราชการทหารบางนายที่ สน.พญาไท ซึ่งเชื่อว่าบุคคลผู้นี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย และมีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงข้อมูล จนทำให้ไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ และจะเข้าขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการฯ สภาผู้แทนราษฎร ในทุกกรณีที่ทางครอบครัวเชื่อว่า การเสียชีวิตของ “น้องเมย” ไม่ใช่เกิดจากหัวใจล้มเหลว
ส่วนกระแสข่าวลือเรื่องการรับเงินเยียวยา 10 ล้านบาท ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะทุกวันนี้ทุกคนในครอบครัวยังต้องทำงานหาเงินเป็นค่าทนายและการต่อสู้คดีให้กับน้องชาย ที่สำคัญที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับการติดต่อ หรือได้รับความช่วยเหลือจากทางโรงเรียนเตรียมทหาร หรือแม้แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง. – สำนักข่าวไทย