มหาสารคาม 19 มี.ค. – ชาวบ้านผวา เจอลวดหนามขึงขวางถนนทางเข้าหมู่บ้าน อ.บรบือ จ.มหาสารคาม รถบรรทุกวัวขับชนเสียหาย คาดฝีมือวัยรุ่นหวังดักคู่อริ
จากคลิปกล้องหน้ารถ เจ้าของรถคันดังกล่าวขับรถกลับบ้านช่วงดึก พอมาถึงทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองจิก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เห็นลวดหนามขึงขวางถนน ความสูงประมาณ 50-60 ซม. และได้ยินเสียงร้องตกใจกันทั้งรถ จากนั้นได้ถอยรถออกจากพื้นที่ตรงนั้น จนมีรถบรรทุกวัวมาชนเข้ากับลวดหนาม
น.ส.ศิริลักษณ์ อายุ 39 ปี ขับรถยนต์นั่งกันมา 4 คน หลังจากไปส่งหลานที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และกำลังจะกลับบ้านพัก โดยผ่านเส้นทางจากปากทางบ้านดอนบม ต.หนองจิก อ.บรบือ เมื่อถึงบริเวณเลยวัดป่าไปประมาณ 500 เมตร จังหวะที่ถนนมืด รถเปิดไฟสูง มองเห็นลวดหนามขึงพาดขวางถนนสาธารณะ จึงเบรกรถ แต่ไม่กล้าลงจากรถ จากนั้นรีบถอยรถกลับออกไปอีกเส้นหนึ่ง ก่อนแจ้งไปที่ สภ.บรบือ
วันนี้ (19 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังถนนเส้นดังกล่าว พบกับนายวัชธีระ วงษาหลง กำนัน ต.หนองจิก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนเองก็ขับรถผ่านเส้นนี้ตอน 22.30 น. ยังไม่มีลวดหนาม เพราะบ้านตนเลยจากจุดนี้ไปแค่ 300 เมตร พอ 23.00 น. ได้ยินว่ามีเหตุรถยนต์เจอลวดหนาม กระทั่ง 23.30 น. ก็มีรถขนวัวชนเข้ากับลวดหนามเส้นดังกล่าว จนรถเสียหาย
ถนนเส้นนี้เป็นเส้นหลักใช้สัญจรกันหลายหมู่บ้าน จนไม่ทราบว่าสาเหตุใดถึงมีคนมาขึงลวดหนามไว้แบบนี้ ทางชุดสืบสวนได้มาไล่กล้องวงจรปิดดูจากหน้าบ้านตนเองว่า เห็นรถต้องสงสัยในช่วงเวลานั้นหรือไม่ เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ แต่ชาวบ้านบอกว่า ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์มาจอดช่วงเวลาดังกล่าว แต่ไม่ได้ออกมาดู คงต้องให้ทางชุดสืบสวนลงมาเก็บพยานหลักฐานและไล่สอบสวนอีกที
ด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.บรบือ ให้ชุดสืบสวน สภ.บรบือ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่า ลวดหนามเส้นดังกล่าวเป็นลวดที่ทางเจ้าของขึงไว้ แต่คนร้ายตัดแล้วลากข้ามถนนมาอีกฝั่งหนึ่ง แล้วผูกติดกับเสาไฟฟ้า
จากที่ชาวบ้านบอกว่า ช่วงเวลาดังกล่าวได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขี่มาจอดบริเวณดังกล่าว ทางชุดสืบสวนจะได้ไปไล่กล้องวงจรปิดระหว่างเส้นทางที่เกิดเหตุ ในช่วงเวลา 22.30-23.00 น. ของวันที่ 17 มี.ค.68 ว่ามีรถจักรยานยนต์วิ่งผ่านไปมาบริเวณถนนเส้นดังกล่าวในช่วงเวลานี้หรือไม่ หากพบผู้ต้องสงสัยจะเรียกตัวมาสอบสวน และยังได้สั่งให้ชุดปราบปรามกวดขันตรวจตรารถจักรยานยนต์ในพื้นที่โดยรอบ เพื่อสร้างความมั่นใจในการสัญจรไปมาของชาวบ้าน. – สำนักข่าวไทย
