ลักลอบใช้ไฟหลวง เสียหายเดือนละ 10 ล้านบาท

ราชบุรี 26 มิ.ย. – จนท.การไฟฟ้าภูมิภาคราชบุรี ร่วมตำรวจ สภ.โพธาราม นำหมายศาลบุกค้นโรงงานเหมืองบิตคอยน์ 700 เครื่อง ในนิคมอุตสาหกรรมราชบุรี พบลักลอบใช้ไฟหลวงเสียหายเดือนละ 10 ล้านบาท ยึดเครื่องขุด 59 เครื่อง


การเข้าตรวจค้น พบชายอายุ 41 ปี ชาวจังหวัดเลย เป็นผู้ดูแล เจ้าหน้าที่จึงแสดงและอ่านหมายศาล ก่อนเข้าตรวจค้นภายในโรงงาน เมื่อเปิดประตูเข้าไปดูถึงกับผงะ เมื่อภายในเปิดเป็นเหมืองเหรียญบิตคอยน์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง มีการต่อแบ่งเป็นห้อง ๆ และยังพบเครื่องขุดบิตคอยน์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นเซฟเวอร์สำหรับเหมืองสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) แบบ Cloud Mining และด้านหลังของโรงงานยังมีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาทำเป็นเหมืองบิตคอยน์อีก 3 ตู้ ด้วยกัน รวมแล้วติดตั้งไว้กว่า 700 เครื่อง แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้เพียง 59 เครื่องเท่านั้น ส่วนที่เหลือ พบร่องรอยการเคลื่อนย้าย เครื่องขุดบิตคอยน์ เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณโดยรอบพบว่ามีการถอดเมมโมรี่การ์ด และเครื่องเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดหายไป

พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผู้กำกับการ สภ.โพธาราม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ภูมิภาคอำเภอโพธาราม ได้รับแจ้งจากกองบริการลูกค้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคใต้) จังหวัดเพชรบุรีว่า ตรวจพบจากระบบการจ่ายไฟฟ้า บริเวณนิคมอุตสาหกรรมราชบุรี ในลักษณะของไฟฟ้าที่มีแรงดันไม่สม่ำเสมอ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบจนพบว่าบริเวณหน้าโรงงานดังกล่าวมีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติ จึงตรวจสอบจนพบว่าโรงงานแห่งนี้มีการใช้ไฟฟ้าที่ไม่ตรงตามที่ขอใช้ และยังสืบทราบว่า มีการเปิดเป็นเหมืองเหรียญบิตคอยน์ ขนาดใหญ่ มีการตั้งเครื่องขุดบิตคอยน์ในอาคาร และตั้งเป็นตู้คอนเทนเนอร์อีก 3 ตู้ แต่เนื่องจากข่าวหลุดออกไป ทำให้มีการขนย้ายเครื่องไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยยังเหลือร่องรอยของการรื้อถอนเครื่อง เหลือไว้เพียง 59 เครื่องเท่านั้น


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อายัดเครื่องทั้ง 59 เครื่องไว้ทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 5.9 ล้านบาท เพื่อให้พนักงานสอบสวนนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบกำลังไฟฟ้าที่ใช้แต่ละเครื่อง ว่ามีกำลังวัตต์เท่าไหร่เพื่อตรวจสอบถึงมูลค่าความเสียหายทั้งหมด

นอกจากนี้ยังตรวจพบการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า ให้ไฟฟ้าผ่านมิเตอร์ไม่เต็มตามกระแสไฟฟ้าที่ใช้จริง รวมทั้งเครื่องขุดบิตคอยน์ 59 เครื่อง ราคาเครื่องละหลักแสนบาท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาการลักใช้ไฟหลวง หรือข้อหาลักทรัพย์ ส่วนมูลค่าเบื้องต้นพบลักใช้ไฟหลวงเสียหายเดือนละ 10 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม