ฝนตกชั่วโมงเดียว น้ำท่วมขังโรงเรียน-โรงพยาบาล จ.พิษณุโลก

พิษณุโลก 21 พ.ค.-ฝนตกหนักชั่วโมงเดียว น้ำท่วมขังโรงเรียน โรงพยาบาล และถนนหลายสาย ในพิษณุโลก ขณะที่กระบี่ เรือหางยาวนำเที่ยวกว่า 100 ลำต้องหยุดให้บริการ หลังคลื่นลมแรง

เมื่อช่วงเช้า ในพื้นที่อำเภอเมือง จ.พิษณุโลก เกิดฝนตกหนัก ต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่าชั่วโมง ส่งผลให้วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก มีจากหลังคาไหนลงมาท่วม พื้นที่รอบวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว นักเรียนนักศึกษา ต่างลงมาย้ายรถจักรยานออกจากพื้นที่ขึ้นที่สูง นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักยังส่งผลให้ถนนในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก อาทิ ถ.บรมไตรโลกนารถ ถ.เอกาทศรถ ถ.ขุนพิเรนทรเทพ ถ.ท้ายโรงพยาบาลพุทธชินราช ถ.พระองค์ดำ มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร รถเล็กยังสามารถสัญจรผ่านได้ แต่ทำให้เกิดการจราจรติดขัด รถจักรยานยนต์ดับหลายคัน ขณะที่ชาวบ้านบ่นว่า สาเหตุ จากท่อระบายน้ำอุดตัน และการทำถนนใหม่ ทำให้ช่องระบายน้ำเล็กลง น้ำระบายไม่ทัน และน้ำท่วมขังนานกว่า 2 ชั่วโมง ยังไม่ลดลง นอกจากนี้หลายจุดพบว่าน้ำท่วมภายในบริเวณร้านค้าและบ้านพักอาศัยด้วย


นอกจากนี้ที่ ถ.ขุนพิเรนทรเทพ เป็นอีกจุดที่มีน้ำท่วมขังสูง และเป็นจุดที่ประชาชนต้องสัญจรผ่าน ไป โรงพยาบาลพิษณุเวช โรงเรียนโรจน์วิทและโรงพยาบาลพุทธชินราช แม้ว่าจะมีป้ายกั้นห้ามใช้เส้นทางเนื่องจากมีน้ำท่วมสูงแล้วก็ตาม ขณะที่ประชาชนที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลต้องเจอปัญหาน้ำท่วมขังถนนลานจอดรถ และยังไม่สามารถนำเคลื่อนย้ายรถออกจากบริเวณดังกล่าวได้

ส่วนที่ จ.กระบี่ เรือหางยาวนำเที่ยว กว่า 100 ลำ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณชายหาดนพรัตน์ธารา หาดอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังลมพายุแรงพัดเข้าฝั่งต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการต้อง นำเรือมาจอดหลบคลื่นที่ อ่าวด้านหลัง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ออกประกาศแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการนำเที่ยวให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการท่องเที่ยวทางทะเลทุกแห่งในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และให้ผู้ควบคุมเรือทุกลำตรวจความพร้อมใช้งาน สวมเสื้อชูชีพขณะอยู่ในเรือตลอดเวลา และให้ติดตามรายงานข่าวสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด


ด้าน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ขณะนี้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันนี้ถึง 26 พ.ค. ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง กว่า 3 เมตร ส่วนฝั่งอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เนื่องจากเริ่มเขาสู่หน้ามรสุมแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย