ระยอง 24 เม.ย. – ทีมดับเพลิงปรับแผนคุมไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ล่าสุดควบคุมและดับไฟไปแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลตรวจคุณภาพอากาศรอบพื้นที่โรงงานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ห่วงไอระเหยกระทบสุขภาพ
ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม ใน ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ (24 เม.ย.) เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟที่เผาไหม้สารเคมีให้ดับมอดสนิทได้ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ปรับแผนเข้าปฏิบัติการดับไฟที่ไหม้ถังสารเคมีภายในอาคารโกดัง 3 ซึ่งเก็บสารเคมีประเภทอะลูมิเนียม ด้วยการใช้รถแบ็กโฮตักทรายและดินกลบดับไฟให้มอดและไม่ให้ควันฟุ้งกระจายออกมาได้สำเร็จ แต่ยังเหลืออาคารโกดัง 5 ซึ่งเป็นโกดังเก็บสารเคมีประเภทน้ำมันปนเปื้อน ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติการดับไฟได้ โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทำได้เพียงเฝ้าระวังไม่ให้ไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีก ด้วยการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันนี้จะมีการเข้าปฏิบัติการดับไฟในโกดัง 5 ซึ่งตามแผนจะใช้รถแบ็กโฮเข้าไปโกยถังสารเคมีที่วางซ้อนกันอยู่ในโกดังจำนวนนับพันถัง ซึ่งเป็นอุปสรรคและปัญหาในดับไฟของเจ้าหน้าที่ลงมา จากนั้นจะฉีดดับด้วยโฟมตามจุดต่างๆ ขณะนี้ได้ขอรับการสนับสนุนโฟมจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในการปฏิบัติการดับไฟในโกดังดังกล่าว
นายจาตุรงค์ วงค์สุวรรณ นายก อบต.บางบุตร เปิดเผยว่า สำหรับการปฏิบัติการดับไฟของเจ้าหน้าที่ตลอด 2 วันที่ผ่านมา สามารถดำเนินการไปแล้วไม่ต่ำกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ ยังเหลือเพียงโกดัง 5 เท่านั้นที่จะเข้าปฏิบัติการดับไฟในวันนี้ คาดว่าน่าจะสามารถเข้าควบคุมและดับไฟลงได้ตามแผนที่วางไว้
จากการสำรวจความเสียหายของโกดังที่ถูกไฟไหม้พบว่ามีโกดังเก็บสารเคมีถูกไฟเผาไหม้ทั้งหมด 3 หลัง มีโกดัง 3, 4 และ 5 ส่วนโกดัง 1 และ 2 ไม่ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด
กรมควบคุมมลพิษพบไอระเหยจากสารเคมี
ส่วนกรมควบคุมมลพิษ เข้าตรวจสอบปริมาณไอระเหยของสารเคมีพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย ส่วนคุณภาพอากาศในชุมชนโดยรอบบริเวณพื้นที่โรงงาน และชุมชนโดยรอบตั้งแต่ระยะ 350 เมตร จนถึงประมาณ 4.7 กิโลเมตร พบปริมาณไอระเหยสารเคมีเล็กน้อย อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่ส่งผลให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงเกิดอาการระคายเคืองผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ
ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมประสานเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ตำรวจภูธรบ้านค่าย และพิสูจน์หลักฐาน เร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ และหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ.-สำนักข่าวไทย