ระยอง 24 เม.ย. – เหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี จ.ระยอง ทีมดับเพลิงปรับแผนใหม่ หลังมีบางจุดไฟปะทุขึ้นมา โดยใช้รถแบ็กโฮตักดินกลบดับไฟ ขณะตำรวจ สภ.บ้านค่าย เร่งสอบปากคำหัวหน้าคนงานและคนงานของโรงงาน เพื่อหาสาเหตุ
ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง หลังจากยังไม่สามารถดับเพลิงให้ดับมอดสนิทได้ และยังมีบางช่วงเวลาเปลวไฟปะทุขึ้นมาเป็นระยะ
นายทศพล บวรโมทย์ นายอำเภอบ้านค่าย เปิดเผยภายหลังประชุมทีมดับเพลิงว่า เบื้องต้นได้ปรับแผนเข้าดับไฟที่ยังลุกขึ้นมาอีก หลังฉีดน้ำสกัดไม่ได้ผล โดยจะใช้รถแบ็กโฮตักดินกลบกองไฟที่ปะทุขึ้นมา เพราะสารเคมีบางตัวไม่สามารถใช้น้ำดับได้ จึงจำเป็นต้องใช้ดินหรือทรายกลบ เบื้องต้นไม่ต้องใช้โฟมดับแล้ว โดยมีรถดับเพลิงสนับสนุน 4 คัน และจะพยายามให้สถานการณ์จบเร็วที่สุด หลังนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง กำชับมา หวั่นปล่อยไว้นานจะกระทบชาวบ้าน
ส่วนความคืบหน้าคดี ตำรวจ สภ.บ้านค่าย ตั้งโต๊ะบริเวณศาลาวัดหนองพวา ห่างจากโรงงานประมาณ 1 กม. โดยเรียกหัวหน้าคนงานและคนงานของโรงงาน ซึ่งอยู่ในวันเกิดเหตุ มาสอบปากคำ เพื่อเร่งสรุปหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้
“พัชรวาท” ยันอากาศรอบโกดังไม่พบอันตราย
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ว่าได้สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษไปตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ ตั้งแต่ 300 เมตร ถึง 10 กิโลเมตร พบว่าไม่มีสารเคมีหรือสภาพอากาศที่เป็นอันตรายต่อประชาชน
ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้ที่หลายคนออกมาตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติก็ได้ให้กรมควบคุมมลพิษไปตรวจสอบแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีความผิดสังเกตอะไร ส่วนกรณีสารในแอมโมเนียรั่วที่ จ.ชลบุรี ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีสารอะไรที่เป็นอันตรายเช่นเดียวกัน
กรมควบคุมมลพิษพบไอระเหยสารเคมี-เหม็นไหม้
นางสาวปรียาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณโดยรอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดัง พบไอระเหยสารเคมีเล็กน้อย ทางทิศเหนือของโรงงาน และยังมีกลิ่นเหม็นไหม้ แต่คุณภาพอากาศยังไม่อยู่ในเกณฑ์ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจะยังคงติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
ทั้งนี้ ได้อพยพประชาชนในพื้นที่หมู่ 4, 8 และ 11 ในพื้นที่ ต.บางบุตร และหมู่ 11 ในพื้นที่ ต.หนองบัว ซึ่งอยู่ด้านท้ายลม มายังศูนย์อพยพชั่วคราวบริเวณวัดหนองพะวา แต่ปัญหาที่พบคือลมเปลี่ยนทิศ จึงจะมีการหาจุดอพยพที่เหมาะสมอีกครั้ง เบื้องต้นพบมีผู้มีอาการวิงเวียน บาดเจ็บเล็กน้อย 5 คน
สำหรับตัวโรงงานที่ไฟไหม้ อาคาร 1 จัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อนและตะกอนปนเปื้อน, อาคาร 2 บ่อตะกอนน้ำมัน, อาคาร 3 เศษวัสดุ ยางรถยนต์ พลาสติก แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์, อาคาร 4 เก็บถัง IBC 1,000 ลิตร และถัง 200 ลิตร และอาคาร 5 ส่วนหน้าอาคาร เศษวัสดุ ถัง IBC 1,000 ลิตร เศษพลาสติก กองยิปซัม เถ้าลอย ส่วนหลังอาคาร บ่อของเสีย และพื้นที่ระหว่างอาคาร 3 กับอาคาร 5 มีการจัดเก็บน้ำเสียปนเปื้อน น้ำกรด และกากตะกอนจำนวนมาก ปัจจุบันถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด
ผลตรวจน้ำประปารอบโรงงานระยอง “ปลอดภัย”
ส่วน นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่ประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะน้ำประปา สรุปว่าจากการเก็บตัวอย่างน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่หมู่ 8 และหมู่ 4 ต.บางบุตร และหมู่ 11 ต.หนองบัว เพื่อตรวจหาการปนเปื้อนสารเคมีอันตรายในน้ำประปา พบคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ประชาชนสามารถใช้น้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย สำหรับประชาชนในพื้นที่ที่มีการนำน้ำประปาหมู่บ้านใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือน ขอให้ประชาชนสังเกตสี กลิ่น ของน้ำประปา หากพบว่าผิดปกติให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ทันที.-สำนักข่าวไทย