ศรีสะเกษ 21 มี.ค. – กว่า 700 ปี ที่รอค่อย พุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวนับพัน ร่วมแห่หลวงพ่อทองขึ้นประดิษฐาน ณ วิหารหลังใหม่
ที่วัดบ้านด่าน ตำบลสร้างปี่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการประกอบพิธียกช่อฟ้าเอก พระวิหารหลวงพ่อทอง และพิธีอัญเชิญหลวงพ่อทองขึ้นประดิษฐาน ณ วิหารหลวงพ่อทอง โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กรมการกฤษฎีกา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบรรจบ จันทรัตน์ รองอธิบดีกรมการปกครอง และนายขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง ประธานอุปถัมภ์สร้างวิหารหลวงพ่อทอง นำพุทธศานิกชนและชาวบ้านในพื้นที่ อ.ราษีไศล และอำเภอใกล้เคียง นับพันคนร่วมพิธีดังกล่าว
วัดบ้านด่าน มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ คือ หลวงพ่อทอง ปางห้ามสมุทร อายุกว่า 700 ปี ประดิษฐานอยู่ เป็นพระพุทธรูปที่ทางกรมศิลปากรยืนยันว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะ คาดว่าสร้างสมัยสุโขทัยตอนปลาย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และแสดงอภินิหารให้ปรากฏอยู่หลายครั้งด้วยกัน เช่นเมื่อครั้งปี 2508 ซึ่งเป็นปีที่นักแสวงโชคออกหาพระพุทธรูปเพื่อนำไปขายหรือส่งออกต่างประเทศตามความต้องการของตลาด ก็มีนักแสวงโชคมาแอบขโมยหลวงพ่อทอง โดยใช้คนหาม 4 คน มุ่งหน้าเดินทางออกจากวัด เดินทางทั้งคืนได้แค่ประมาณ 2 กิโลเมตร จึงนำหลวงพ่อทองไปซ่อนไว้ในจอมปลวก วันต่อมาไปจ้างวานเกวียนของชาวบ้านมาขน และเดินทางไปได้ระยะหนึ่งเกวียนก็หัก และได้นำพระพุทธรูปไปทิ้งลงในบ่อน้ำ ชาวบ้านตามหาจนพบจึงได้นำกลับมาบ้านด่านดังเดิม
และอีกครั้งเมื่อปี 2518 มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลกลับมาขโมยหลวงพ่อทอง บรรทุกใส่รถจี๊ป นำไปถึง อ.ราษีไศล และนำไปเก็บไว้ที่บริเวณบ้านของตนเอง แต่เกิดอาการวิตกจริต จึงได้นำไปซ่อนไว้ที่ป่าละเมาะหาดทรายแม่น้ำมูลใกล้วัดกลาง ชาวบ้านไปค้นหาจนพบและนำไปไว้ที่ สภ.ราษีไศล และได้นำไปเก็บไว้ที่ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ เมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นหลวงพ่อทอง เป็นพระพทธรูปของวัดบ้านด่าน จึงได้นำกลับมาที่วัดดังเดิมอีกครั้ง และได้นำหลวงพ่อทอง ประดิษฐานไว้ในกรงเหล็กอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายใจบาปมาลักเอาหลวงพ่อทองได้อีก
หลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านในหมู่บ้าน และชาวจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมถึงต่างจังหวัด เคารพนับถือศรัทธา เชื่อว่าถ้ามาขอพรอะไรก็จะได้สมใจปรารถณา แต่ที่สำคัญถ้าจะขอต้องตะโกนขอเปล่งเสียงออกมาดังๆ เพื่อให้หลวงพ่อทองได้ยิน และต้องทำตัวเป็นคนดี อยู่ในศิลธรรม ถึงจะสำฤทธิ์ผล
นอกจากทางวัดบ้านด่าน จะมีหลวงพ่อทอง แล้วปัจจุบันยังมีวิหารหลวงพ่อทอง วิหารหลังนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดศรีสะเกษ เพราะทางวัดบ้านด่าน ศรีสะเกษ ได้มีการจัดสร้างวิหารได้อย่างวิจิตรงดงาม สลักลวดลาย งานปั้นองค์พญานาคและเทวดานางฟ้าต่างๆ ที่ดูอ่อนช้อย สวยงาม เหมือนกับสวรรค์บนดิน วิหารทั้งหลังเน้นใช้สีขาวเป็นหลัก มองดูคล้ายกับวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย
นอกจากนี้ ซุ้มประตูโขง ถือเป็นซุ้มประตูที่สวยที่สุดในภาคอีสานก็ว่าได้ จุดเด่นคือ มีการสลักลวดลายและงานปั้นองค์พญานาค-เทวดานางฟ้าต่างๆ ที่ดูอ่อนช้อย สวยงาม ที่แปลกคือ เวลายืนอยู่ตรงกลางประตูแล้วพูดหรือตะโกนออกมาจะมีเสียงก้องกังวาน คล้ายอยู่ในห้องโถง แต่พอเดินหลุดพ้นซุ้มประตูออกมาแล้ว เวลาพูดออกมากับไม่ก้องกังวานเหมือนตอนอยู่ที่ซุ้มประตู .- สำนักข่าวไทย